การที่มีคนเข้ามาจีบตรงๆ ต่อหน้าอาจจะทำให้คุณรู้สึกอึดอัดและน่ารำคาญอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายของคุณหรือคนที่มีตำแหน่งเหนือกว่ามาจีบคุณ หรือบางทีคุณเองก็ไม่อยากได้รับความสนใจจากคนอื่นที่กระตือรือร้นอยากให้คุณสนใจ เราจึงมีขั้นตอนเล็กน้อยที่ทำให้คนบางคนเลิกมาจีบคุณมาฝากกันค่ะ
วิธีที่ 1 ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะและความสัมพันธ์ของคุณ
1.1 บอกใบ้กับเขาว่าคุณมีคนสำคัญแล้ว แม้ว่าคุณอาจจะต้องจินตนาการขึ้นมาหลอกๆ ก็ตาม
source: tumblr
ระหว่างการพูดคุยกับคนที่เข้ามาจีบหรือมาเจ้าชู้ใส่คุณ ให้คุณพูดถึงแฟนของคุณบ่อยๆ สร้างเรื่องราวเกี่ยวกับแฟนของคุณในบทสนทนา
1.2 วางรูปคนสำคัญของคุณ ไว้ในตำแหน่งที่มองเห็นง่าย
source: stardustmodel.tumblr
วางรูปของแฟน 1-2 รูปไว้บนโต๊ะ ไม่ก็เก็บรูปของแฟนไว้ในกระเป๋าสตางค์ หรือติดรูปแฟนไว้สักที่ตรงโต๊ะทำงานของคุณ แต่ถ้าหากคุณยังไม่มีแฟนเลยสักคน คุณก็สามารถสร้างแฟนหลอกๆ ของคุณขึ้นมาได้และใช้รูปภาพเพื่อนสักคนที่น่าสนใจแทน แต่มันก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ในการแต่งเรื่องแฟนหลอกๆ ขึ้นมาในกรณีที่คุณจะต้องเจอกับคนที่มาจีบบ่อยๆ และการโกหกของคุณก็อาจจะถูกจับได้มาขึ้นและทำให้เกิดปัญหาตามมาได้
– หากคุณมีช่องทางการติดต่อทางโซเชียลกับคนที่มาจีบแล้วละก็ ให้คุณสวมเสื้อยืดที่มีหน้าคนที่คุณรักและเขียนข้อความเช่น “คู่หมั้นของฉัน” “My Love” “ฉันรักคนนี้ที่สุด” อะไรก็ว่าไป เพื่อที่คนที่มาจีบคุณจะได้เห็นมัน
1.3 พูดคุยเรื่องแผนการในวันหยุดกับคนสำคัญของคุณ
source: forums.soompi
ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้วที่คุณจะสร้างแผนในวันหยุดกับคนที่มาตามจีบคุณ แต่นั่นจะเป็นแค่การกระตุ้นพฤติกรรม เพียงแค่คุยถึงแผนการณ์ที่มีแฟนของคุณในบทสนทนา
– และอีกครั้งหากคุณยังไม่มีแฟนในตอนนี้ ให้ใช้ข้อแก้ตัวอื่นๆ อย่างเช่น เรื่องงานหรือครอบครัว ไม่ก็งานอดิเรกที่คุณอยากทำหรือกิจกรรมทางกีฬา (ที่ไม่ต้องการผู้ชม)
– หากคนที่มาจีบคุณได้ยินแผนที่คุณจะไปเที่ยวกับเพื่อน และพยายามที่จะสอดแทรกตัวเองเข้ามาเพื่อขอไปด้วย คุณควรบอกให้เพื่อนๆ รู้ล่วงหน้าว่า พวกเขาต้องร่วมมือกันเป็นทีมเพื่อกันคนๆ นี้ออกไป เพื่อนๆ จะทำให้คุณภูมิใจได้แน่หากพวกเขารู้
1.4 บางครั้งการตรงไปตรงมาก็เป็นเรื่องดีที่สุด
source: anotherfsblog.tumblr
วิธีนี้จะทำให้คุณไม่ต้องสร้างเรื่องโกหกหรือเรื่องที่จริงบ้างไม่จริงบ้างอีกต่อไป ลองพูดกับคนๆ นั้นไปว่า “ฉันไม่ได้อยากทำตัวหยาบคายหรอกนะ แต่ฉันชอบอะไรตรงๆ และซื่อสัตย์ ต้องขอโทษด้วยที่ต้องพูดแบบนี้กับคุณ ฉันไม่สนใจที่จะออกไปไหนมาไหนกับคุณ ขอโทษจริงๆ แต่อย่างน้อยเราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลา” และถ้าจริงๆ แล้วคุณก็ไม่ได้รังเกียจอะไรคนนั้นมากนัก คุณอาจถามไปว่า “คุณโอเคไหม? ที่จริงฉันหวังว่าเราจะยังเป็นเพื่อนกันได้นะ” แต่ถ้าคุณไม่ชอบคนนั้น วิธีสุภาพและดีที่สุดก็คือ รีบจบการสนทนาไปอย่างรวดเร็วและทันที
– ให้คุณจำเอาไว้ว่า ทุกคนที่ถูกปฏิเสธไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน อย่าไปคิดว่าคนเหล่านั้นไม่สามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้นะ หากคุณกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของพวกเขา ให้จำไว้ว่าสิ่งที่จะเจ็บปวดมากกว่าการเป็นคนซื่อสัตย์และตรงไปตรงมาก็คือการให้ความหวังคนอื่นนั่นเอง
วิธีที่ 2 อย่าตอบสนองต่อพฤติกรรมของคนที่เข้ามาจีบ
2.1 อย่าเล่นหูเล่นตากลับไป
source: dramafever
หากคุณอยากให้พฤติกรรมนี้หยุดไปจริงๆ คุณไม่ควรหัวเราะหรือแสดงอาการเชิญชวนออกมา และให้ระวังการใช้ภาษากายของคุณที่จะทำให้เขาเกิดความสับสนและจะยิ่งวุ่นเข้าไปใหญ่ การแสดงออกบางอย่างอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้นะ คุณควรระวังให้มาก การแสดงออกทางกายภาพเป็นสิ่งที่คุณต้องควบคุม ยกตัวอย่างเช่น
– หันหน้าของคุณหรือมองไปทางอื่น เมื่อคนๆ นั้นเริ่มเข้ามาวอแวคุณหรือทำท่าทางเจ้าชู้กับคุณ อย่างถ้าคนนั้นแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาพลักษณะของคุณ ให้คุณมองไปทางอื่นและอย่าไปตอบโต้
– ขยับตัวออกห่าง เมื่อคนๆ นั้นจะเข้ามาแตะต้องตัวคุณ อย่างเช่นถ้าเขาจับมือของคุณหรือเอาแขนมาโอบไหล่คุณ ให้คุณหลบออกมา และบอกไปว่า “อย่ามาแตะตัวฉันอีกนะ” และบอกไปว่าคุณไม่ชอบ
– หากคุณเองก็เป็นคนที่ชอบการสัมผัสหรือขี้เล่นกับคนอื่นแบบนี้กับทุกคนอยู่แล้ว คุณควรลดพฤติกรรมเหล่านี้กับคนที่เข้ามาจีบคุณ เพราะเขาอาจเข้าใจผิด และเขาอาจไม่สามารถแยกแยะความจริงที่ว่าคุณทำแบบนี้กับทุกคนนั่นแหละ อีกหนึ่งวิธีก็คือการมีเพื่อนที่ดีสักคนอธิบายกับคนที่มาจีบคุณว่าคุณปฏิบัติแบบนี้กับทุกคนเหมือนกันก็จะช่วยให้เขาไม่เข้าใจผิดตั้งแต่แรก
2.2 เดินออกมาจากตรงนั้น
source: countingsheepy.blogspot
หากคุณอยู่ที่งานเลี้ยงของบริษัท งานสังคมอื่นๆ หรือในผับ ให้ขอตัวออกมาอย่างสุภาพและจากมา แล้วไปคุยกับคนอื่นต่อ การทำแบบนี้จะทำให้คนๆ นั้นเข้าหาคุณได้ยากขึ้น
2.3 ปรึกษาเพื่อนสนิทหรือเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนที่เข้ามา
source: pinoyexchange
หากเพื่อนของคุณหรือเพื่อนร่วมงานมีท่าทีสนับสนุนพฤติกรรมของคนๆ นั้น ให้คุณคุยกับพวกเขาเพื่อบอกความรู้สึกของคุณ ทำให้เพื่อนได้รู้ว่าคุณไม่อยากให้มีการสนับสนุนเกิดขึ้น และหวังว่าครั้งต่อไปเมื่อคุณอยู่กับเพื่อนแล้วมีการจีบเกิดขึ้น เพื่อนของคุณจะคอยช่วยเหลือคุณอยู่เบื้องหลังคุณและทำให้คุณควบคุมตัวเองไม่ให้มีปฏิกิริยาตอบสนองได้ง่ายขึ้น
วิธีที่ 3 บอกความรู้สึกของคุณกับคนๆ นั้น
3.1 ขอคุยกับคนที่เข้ามาจีบคุณเป็นการส่วนตัว
source: tumblr
หากการบอกเป็นนัยๆ ไม่ได้ผล คุณคงต้องคุยเรื่องความรู้สึกของคุณไปตรงๆ แล้วล่ะ คุณอาจนัดเจอกับคนๆ นั้นเป็นการส่วนตัว แต่ต้องไม่ใช่ที่ลับตาคนนะ อาจจะเป็นตามร้านกาแฟหรือไม่ก็ห้องประชุมในที่ทำงานก็ได้ อย่าไปนัดคุยกันในรถของคุณ ที่บ้านของคุณหรือในที่ๆ เป็นส่วนตัวที่อาจจะกระตุ้นให้คนๆ นั้นฉวยโอกาสกับคุณได้ง่าย
3.2 ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของคุณ
source: tumblr
แม้ว่าความซื่อสัตย์จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่คุณไม่จำเป็นต้องส่งต่อความรู้สึกของคุณด้วยวิธีที่โหดร้าย ยังมีวิธีที่นุ่มนวลให้เลือกใช้อย่างเช่น
– เริ่มต้นการสนทนาด้วยลักษณะที่คุณชื่นชมในตัวคนๆ นั้นแต่มีความเป็นกลาง หัวข้อที่ใช้คุยอาจเกี่ยวกับการทำงานหรือความเป็นมิตรของเขา และควรหลีกเลี่ยงหัวข้อพวกลักษณะภายนอกหรือไหวพริบของคนๆ นั้น เพราะการทำแบบนี้อาจเป็นการส่งข้อความแบบผิดๆ ได้
– คุณสามารถหลีกเลี่ยงการกล่าวตำหนิ (ซึ่งอาจทำให้เขาแสดงความต่อต้าน) โดยการพูดคุยที่จริงใจและผ่อนคลายด้วยประโยคที่คล้ายกับการคาดคะเนเช่น “ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้หมายถึงอะไรแบบนั้น” หรือ “ฉันรู้ว่าคุณเป็นพวกชอบออกไปสังสรรค์และคุณก็ไม่ได้มีเจตนาอะไร” และถ้าหากคนที่มาจีบยังตามคุณไม่ทัน คุณอาจพูดต่อไปว่า “…แต่ฉันค่อนข้างอึดอัดกับการ…(สิ่งที่คนนั้นชอบทำกับคุณ)…และฉันอยากให้ความสัมพันธ์ของเราเป็นแบบเพื่อนทั่วไปมากกว่า”
– บอกกับเขาไปว่าทำไมคุณถึงไม่สามารถยอมรับในความเจ้าชู้หรือการมาจีบของคนๆ นั้นได้ คุณควรพิจารณาคำพูดของคุณให้ดีก่อนที่จะพบกับคนๆ นั้น เพื่อที่คุณจะได้หนักแน่นในคำพูดของคุณว่าทำไมคุณถึงอยากให้คนๆ นั้นลดพฤติกรรมลง
– หากยังคงมีการจีบอยู่ ให้คุณเข้าใจไว้เลยว่าคนๆ นั้นไม่เคารพในความต้องการของคุณ หากเขาชอบคุณจริงๆ เขาจะเคารพความต้องการของคุณ
– มั่นคงกับความรู้สึกของคุณ อย่าปล่อยให้คนๆ นั้นทำให้คุณไขว้เขวออกจากความคิดเดิมของคุณ
3.3 อนุญาตให้คนๆ นั้นได้ตอบด้วย
source: tumblr
เปิดรับคำถามหรือความคิดเห็น คุณอาจมีการเตรียมการตอบคำถามล่วงหน้าเล็กน้อย
3.4 อย่าปล่อยให้การสนทนายาวเกิน 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์ในการคุยคือทำให้คนๆ นั้นเลิกมาวุ่นวายกับคุณ ดังนั้นคุณไม่ควรปล่อยให้การพูดคุยนานจนเกินไป หมั่นดูเวลาเอาไว้แล้วหาทางจบการสนทนาด้วยตัวคุณเอง
วิธีที่ 4 ลดการมีปฏิสัมพันธ์
4.1 คงความเป็นมิตรไว้ แต่รักษาระยะห่าง
source: tumblr
อย่าหาเรื่องคุยกับคนๆ นั้น หากคุณต้องทำงานด้วยกัน ให้รักษาและจำกัดระยะการติดต่อเอาไว้และอยู่ในที่สาธารณะ ให้คงความเป็นมิตรและรักษามารยาทไว้ตลอดเวลา
4.2 ตอบอีเมลหรือโทรศัพท์สั้นๆ และตรงประเด็น
หากคุณจำเป็นต้องติดต่อกับคนๆ นั้น คุณควรตอบอย่างเป็นทางการและกระชับ อย่าเพิ่มมุขตลกหรือข้อมูลส่วนตัวระหว่างการติดต่อของคุณ และถ้าหากไม่จำเป็นให้หลีกเลี่ยงการติดต่อกับคนๆ นั้นไม่ว่าจะเป็นอีเมลหรือโทรศัพท์
4.3 อย่าค้นหาความน่าสนใจของคนที่เข้ามาจีบคุณ
source: tumblr
อย่าส่งเสริมพฤติกรรมนั้น หลังจากที่คุณได้ทำหารพูดคุยหรือหยุดการติดต่อกับคนๆ นั้นไปแล้ว คุณควรมีข้อจำกัดในการพบปะอย่างการเจอกันเป็นกลุ่มเท่านั้นและไม่ติดต่อเจาะจงที่คนๆ นั้นเพียงคนเดียว
source: tumblr
ทั้ง 4 วิธีที่กล่าวไปข้างต้นนี้อาจทำให้คนที่มาจีบคุณเลิกมาตอแยกับคุณ โดยที่จะไม่ทำให้ต่างฝ่ายต้องเสียความรู้สึกกัน หากใครที่มีคนมาตามตื้ออยู่ลองนำวิธีพวกนี้ไปใช้ดูได้เลยค่ะ และส่วนใครที่กำลังตามตื้อคนอื่นอยู่นั้น หวังว่าหลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ไปแล้ว คุณคงระมัดระวังในการเข้าหาคนที่คุณชอบ โดยที่ไม่ทำให้คนๆ นั้นของคุณต้องลำบากใจนะคะ ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ
หลงใหลในความเป็นญี่ปุ่น~ ชอบเล่าเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ ยินดีที่ได้รู้จักนะ : )