“สวยเลือกได้” คำ ๆ นี้ยังคงใช้ได้ไม่มีตกยุคเสมอ เพราะสาว ๆ ทุกคนย่อมต้องเลือกสิ่งที่ตรงใจตัวเองที่สุดใช่ไหมล่ะคะ!?? โดยเฉพาะ “คนรัก” ถือเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตของผู้หญิงเลยทีเดียว หากเป็น “คนที่ใช่” ก็ถือว่าโชคดี ชีวิตนี้ได้เป็นฝั่งเป็นฝาแน่นอน
แต่หากคบกัน คุยกันไปนาน ๆ กลับเกิดความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ขอบอกให้สาว ๆ สะบัดบ็อบใส่ ถอยออกมา อย่าเสียเวลากับ “เขา” เลยดีกว่า เพราะนั่นเป็นสัญญาณบอกว่าเขาคือ “คนที่ไม่ใช่” ของคุณ
1.ไม่ชอบเวลาเขาเครียด
เข้าใจว่าเป็นธรรมดาของมนุษย์ที่ต้องโกรธ หงุดหงิด หรืออารมณ์เสียบ้างเวลาเจอเรื่องเครียดหรือสิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจ แต่หากตอนอยู่กับคุณ เขาไม่สามารถรู้สึกดีขึ้นได้ ซ้ำยังแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา จนทำให้ตัวคุณเองพลอยเครียดตามไปด้วย แนะนำว่าถอยห่างออกมาเถอะค่ะ ไม่ใช่ถอยออกมาชั่วคราวเพื่อรอให้เขาอารมณ์ดีนะคะ แต่ให้ถอยออกมาจากชีวิตเขาแบบถาวร คบเป็นเพื่อนได้ แต่อย่าล้ำเส้นเข้าไปใกล้คำว่า “แฟน” เลย เพราะหากคุณต้องแต่งงานอยู่ร่วมกันกับเขา แน่นอนว่าปัญหาและความกดดันต่าง ๆ ของชีวิตคู่ย่อมมีมาเรื่อย ๆ และ ณ ตอนนี้ คุณยังรับตัวตนอีกด้านของเขาไม่ได้ คุณก็ไม่จำเป็นต้องทนให้เหนื่อยใจเปล่า ๆ คุณอาจเสียดายเวลาที่คบกันมา แต่มันก็ดีกว่ามานั่งเสียใจกับสิ่งที่สายเกินแก้นะ
2.ไม่อยากอยู่ใกล้เขา
“ไม่เห็นหน้า ได้เห็นหลังคาบ้านก็ยังดี” อาจฟังดูเชย แต่ก็สื่อความได้ดีว่าการได้อยู่ใกล้ชิดคนที่เรารู้สึกดีด้วยมันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง หากเป็นสมัยนี้คงเปลี่ยนจากส่องรั้วบ้านมาเป็นส่องเฟซบุ๊ก ยิ่งคนที่เป็นแฟนกัน มีโอกาสเจอหน้ากันทุกวันย่อมมีความสุขจนคนอื่นอิจฉาเบา ๆ แต่หากวันหนึ่งวันใด คุณกลับรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ ไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่ออยู่กับเขา นั่นก็เพราะคุณอาจเรียนรู้อะไรหลายอย่างที่ทำให้รู้ว่าคุณไม่ได้ “รู้สึกดีอย่างที่คนเป็นแฟนกันเป็นอีกต่อไป” ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรหากความรู้สึกดีที่คุณมีให้เขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้อาจลดน้อยถอยลงจนเหลือศูนย์ เพราะช่วงเวลาที่คบกัน คุณอาจเรียนรู้อะไรหลายอย่างที่ทำให้รู้ว่าเขายังไม่ใช่ เมื่อไม่ใช่ ก็ไม่มีประโยชน์จะอยู่ด้วยกันต่อ เราควรใช้เวลาอย่างมีความสุขอยู่กับสิ่งที่เรารักนะคะ
3.ไม่มีรสนิยมที่คล้ายกัน
“รักไร้พรมแดน” อาจมีอยู่จริงในนิยาย น้อยมากที่คนแตกต่างกันอย่างสุดขั้วสองคนจะประคับประคองชีวิตคู่ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ได้หมายความว่ารักกันไม่ได้นะคะ แต่หมายถึงการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันต่างหาก รสนิยมในที่นี้หมายถึงความเชื่อทางศาสนาหรือสังคมที่เขาเติบโตขึ้นมา สำหรับคนรุ่นเรา ๆ อาจไม่เคร่งครัดประเพณีอะไรมากมาย แต่อย่าลืมว่าชีวิตคู่ของคุณและเขาไม่ได้ตัดขาดจากญาติผู้ใหญ่ของแต่ละฝ่ายอย่างสิ้นเชิง ซึ่งแน่นอนว่าคุณไม่มีทางหนีกฎเกณฑ์ที่คุณอาจไม่ชอบใจบางอย่างได้ หากอดทนยอมรับก็ผ่านไปได้ แต่แน่ใจเหรอว่าเมื่อวันนั้นมาถึงจริง ๆ คุณจะทนไปได้ตลอด ความรักอย่างเดียวอาจไม่พอหล่อเลี้ยงชีวิตคู่ เพราะโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่คุณกับเขาที่อยู่ด้วยกันเพียงสองคน
4.เศร้ามากกว่าสุข
หากความรักทำให้คุณเป็นทุกข์มากกว่ารู้สึกมีความสุข ไม่ว่าความทุกข์นั้นจะมาจากการทำร้ายของเขา หรือความงี่เง่าไม่เข้าเรื่องของคุณเอง ทางแก้ทางเดียวคือตัดใจและตัดความสัมพันธ์กับเขาเถอะค่ะ การอยู่คนเดียวแต่สบายใจ คงดีกว่ามีแฟนแต่ต้องมาคอยระแวง เสียใจ คิดมากจนฟุ้งซ่าน
5.ไม่รู้สึกอยากเป็นคนที่ดีพอ
ความรักทำให้คนเราอยากปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือคุณที่รู้สึกและพยายามเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างตั้งใจเรียนให้ได้เกรดดี ๆ ขยันทำงานหาเงิน หรือเปลี่ยนพฤติกรรมติดลบบางอย่าง นั่นแสดงให้เห็นว่าคนที่คบอยู่ด้วยล้วนมีอิทธิพลต่ออีกฝ่าย เหมือนกับว่า “ฉันอยากเป็นคนที่ดีขึ้นก็เพราะเธอ เธอมีความหมายต่อฉันมาก” แต่หากไม่คุณหรือเขา หรือทั้งสองคนต่างไม่เคยมีโมเมนท์แบบนี้ ก็รู้ไว้เลยว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้อาจไม่จริงจัง การเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคน ๆ หนึ่งไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในวันสองวัน ต้องใช้ความอดทนอย่างที่สุด นี่จึงพิสูจน์ให้เห็นว่าคนที่คบด้วยสำคัญมากแค่ไหน
เอาล่ะค่ะ 5 สัญญาณ บอกลาตัวปลอมที่รวบรวมมานี้คงพอช่วยสาว ๆ สแกนคนที่คบที่คุยกันอยู่ตอนนี้ว่า “ใช่หรือมั่ว” “ชัวร์หรือไม่” หรือเปล่า หากคำตอบคือ “ไม่” ก็เซย์ “Good Bye” เลยจ้า
