เจ้าแมวเหมียว สิ่งมีชีวิตน่ารักขี้อ้อนที่ทำให้หลายคนหลงใหลตกเป็นจำเลยรัก จนอยากนำพาเข้ามาอยู่ในบ้าน ให้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว แต่การตัดสินใจนำเจ้าเหมียวมาเลี้ยงแบบไม่ทันได้เตรียมความพร้อม อาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมาได้ วันนี้เราจึงสิ่งที่คนจะเลี้ยงแมวควรรู้มาฝากกัน ถ้าจะเลี้ยงแมวต้องเจอกับอะไรบ้าง ตามไปดูแล้วเตรียมรับมือกันน้องแมวกัน
1. แมวมีเก้าชีวิต
ทุกคนคงเคยได้ยินกันใช่ไหมว่าคุณแมวเค้ามีถึง 9 ชีวิต ซึ่งหมายความว่าอายุโดยเฉลี่ยของแมวจะอยู่ประมาณ 20 ปี ซึ่งถือเป็นเวลาที่นานมาก ดังนั้นลองถามตัวเองก่อนว่าเลี้ยงเพราะรักแมวจริงๆ พร้อมที่จะเผชิญปัญหา พร้อมดูแลเจ้าเหมียวไปจนหมดอายุขัยหรือไม่ พอหมดความน่ารัก เกิดเบื่อจะมาทิ้งขว้างไว้กลางทางไม่ได้นะ ถ้าเป็นแบบนั้นอย่าได้คิดที่จะนำน้องมาเลี้ยงให้เป็นบาปกันเลย หากอยากเลี้ยงจริงๆ ก็ต้องดูแลกันไปนานๆ ให้ตลอดรอดฝั่งนะ
2. ค่าใช้จ่ายของแมว
มีใครบางคนได้กล่าวไว้ว่า เลี้ยงแมวก็เหมือนเลี้ยงลูก ในเมื่อรับเลี้ยงมาแล้วก็คงอย่าปล่อยให้แมวถูกทิ้งขว้างอดอยาก เหล่าทาสแมวทั้งหลายจึงกลายเป็นสายเปย์เลี้ยงดูเจ้าแมวอย่างดี ซึ่งบอกเลยว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็หนักเอาการอยู่ ทั้งเรื่องอาหาร ที่อยู่ ของเล่น เสื้อผ้า วัคซีน ค่ายา หรือค่าตรวจสุขภาพทั้งหลายแหล่ เรียกได้ว่าเยอะสิ่ง เปย์น้องไหวไหม ถ้าไม่ไหวก็หยุดความคิดนี้ไว้ก่อนดีกว่านะ
3. สัตว์เลี้ยงก็ต้องการเวลาจากเรา
น้องแมวก็มีจิตใจ อยากให้ใครสักคนมาดูแลใส่ใจอยู่ไม่ห่าง ดังนั้นก่อนตัดสินใจเป็นทาสแมวเลี้ยงน้องไว้ที่บ้าน ถามตัวเองก่อนสักนิดว่ามีเวลาว่างอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับน้องได้ตลอดไหม เพราะน้องแมวเป็นสัตว์ที่ต้องการความรัก ต้องการให้เจ้าของสนใจ ดังนั้นการใช้เวลาร่วมกับเจ้าเหมียวจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่คนอยากเป็นทาสต้องรู้ไว้
4. คำนึงถึงพื้นที่ในบ้านสำหรับเลี้ยงแมว
มีแมวหลายตัวที่ติดนิสัยชอบอยู่แต่บ้าน การปล่อยให้แมวอาศัยอยู่ในบ้านสามารถปิดกั้นเชื้อโรคไวรัสจำนวนมากได้ ซึ่งทำให้น้องแมวมีสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งจุดนี้สังเกตบ้านให้ดีว่ามีพื้นที่เพียงพอที่จะเลี้ยงไหม ที่พักอนุญาตให้เลี้ยงรึเปล่า มีที่ทางให้เจ้าเหมียวเล่นไหม ทั้งยังต้องสร้างสภาพแวดล้อมบริเวณบ้านสำหรับแมวด้วย ให้อาหารและน้ำที่สะอาด พร้อมกับสภาพแวดล้อมที่ดี บวกกับความรักที่เรามีให้กับน้องแมวอย่างเพียงพอ เพื่อให้น้องมีความสุขและแข็งแรง
5. วัสดุอุปกรณ์สำหรับการเลี้ยง
ก่อนที่คุณจะนำน้องแมวมาเลี้ยงอย่างเป็นทางการ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่บ้านมีอุปกรณ์พื้นฐานในการเลี้ยงดูน้องพร้อมหรือยัง ไม่ว่าจะเป็นคอนโดคอกแมว จานชามอาหาร ซึ่งล้วนเป็นสิ่งจำเป็นในการเลี้ยงดูเจ้าเหมียว ควรเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเป็นลำดับแรกเพื่อเตรียมต้อนรับน้องก่อนพาเข้าบ้าน
6. จัดสรรพื้นที่เลี้ยงที่ปลอดภัย
สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมากในการเลี้ยงดูเจ้าเหมียว หากบริเวณบ้านมีสภาพแวดล้อมที่แย่ เช่น มีถุงพลาสติก เชือก เส้นด้าย สารเคมี หรือพืชที่เป็นพิษเต็มไปหมด เมื่อนำแมวมาเลี้ยง สิ่งเหล่านี้อาจทำร้ายหรือเป็นอันตรายต่อน้องแมวของเราได้ ดังนั้นก่อนจะเลี้ยงเช็กสภาพแวดล้อมที่บ้านแล้วจัดสรรพื้นที่ปลอดภัยให้กับน้องแมวสักนิด เพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
7. เรียนรู้นิสัยของเจ้าเหมียว
แมวแต่ละตัวจะมีลักษณะนิสัยที่ไม่เหมือนกัน บ้างก็บ้าพลังชอบจิกข่วน และต้องการความเอาใจใส่ บางอารมณ์ก็เรื่อยๆ เฉื่อยๆ สบายๆ ดังนั้นก่อนที่จะนำน้องแมวมาเลี้ยงจึงควรหาข้อมูลและทำความเข้าใจกับนิสัยพื้นฐานของเจ้าแมวเหมียวก่อน และนิสัยอีกอย่างที่เจ้าของแมวควรรู้คือเจ้าเหมียวมักใช้เวลาเล็กน้อยในการทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในบ้าน โดยจะเดินผ่านทุกที่และทุกมุมของบ้านเพื่อสอดส่อง สร้างความรู้สึกปลอดภัยสบายใจเมื่อเข้ามาอยุู่ เรียกได้ว่าละเอียดรอบคอบ ดังนั้นเมื่อเรียนรู้นิสัยใจคอแมวแล้ว ก็ควรรู้จักปรับตัวให้อยู่กับน้องเค้าได้ด้วยนะ
8. เตรียมคอกแมวให้พร้อม
ที่นอนเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการใช้ชีวิตของเจ้าแมว ถ้ารับมาเลี้ยงแล้วปล่อยทิ้งขว้างให้นอนไม่เป็นที่น้องเค้าไม่โอนะ จะรับเลี้ยงทั้งทีก็ควรมีที่นอน จัดที่จัดทางให้สะอาดเตรียมพร้อม และพอน้องเค้าได้ที่ประจำแล้วก็อย่าไปเปลี่ยนตำแหน่งย้ายที่นอนใหม่ให้น้องต้องเคืองใจ เพราะกว่าน้องเค้าจะใช้เวลาปรับตัวได้ก็ใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน
9. เตรียมพื้นที่ให้น้องได้ขีดข่วน
หากที่บ้านมีเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงแสนสวย เหล่าทาสแมวที่คิดจะรับน้องมาเลี้ยงต้องพิจารณาให้ดี เพราะเฟอร์นิเจอร์ที่แสนแพงอาจพังได้ เนื่องจากนิสัยชอบเกาเล็บ ขีดข่วนของน้อง หากไม่อยากให้เกิดปัญหานี้ ก่อนเลี้ยงควรเตรียมอุปกรณ์อย่างบอร์ดขูดให้น้องแมวด้วย สอนให้รู้ว่านี่คือที่ของหนูนะ เพื่อไม่ให้น้องแมวไปยุ่งกับเฟอร์นิเจอร์อันเป็นที่รักของเรา
10. อย่าลืมแปรงขนให้น้องแมว
แม้ว่าแมวจะจัดทรงขนให้เรียบได้ด้วยตัวเอง แต่ในฐานะทาสผู้รับใช้ที่ต้องเลี้ยงดู การช่วยน้องหวีขนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเป็นสิ่งสำคัญมาก! เพราะการหวีผมให้น้องแมวเป็นประจำ นอกเหนือจากจะช่วยลดปัญหาขนพันกันเป็นก้อนแล้ว ยังสามารถทำให้ขนของน้องดูยาวสลวยและสวยงามมากขึ้นได้อีกด้วย
เป็นยังไงบ้างคะ ยังอยากเลี้ยงน้องไว้เป็นเพื่อนคู่ใจกันไหมเอ่ย จะเลี้ยงทั้งทีก็ต้องเตรียมการให้พร้อมเพื่อการเลี้ยงดูที่ดี ทั้งแมวและทาสต่างก็แฮปปี้ ถ้าไม่พร้อมก็รอก่อนดีกว่านะ น้องจะได้ไม่ทรมาน รวมถึงผู้เลี้ยงเองด้วยจ้า
ที่มา: popdaily
ที่มาภาพ: catloveclub,nekomemo,cattime,floppycats,qunelcom,
reversemortgageusa,cattime.1,babydogdoo,hellomyvivi,i.pinimg.1,
i.pinimg.2,i.pinimg.3,i.pinimg.4,i.pinimg.5,i.pinimg.6
Hi!! I'm Coojii อยากผ่อนคลายติดตามเรื่องราวไลฟสไตล์ชิคคูล คลิก Akerufeed โหลดความสุขสิ่งดีดี พร้อมรอส่งต่อกับทุกคนอยู่ที่นี่นะจ๊ะคนดี