หนึ่งกระแสของการลดน้ำหนักสร้างหุ่นสวยที่กำลังเป็นเทรนด์นิยมกันมากในปัจจุบันอย่างสูตรไดเอท IF 16 :8 หลายคนคงต่างได้ยินและอยากจะรู้ว่าสูตรนี้จะทรมานร่างกาย ควบคุมลดน้ำหนักได้ดีเพียงไหน ถึงแม้ว่าเทรนด์นี้จะเป็นเทรนด์กระแสที่กำลังบูมในไทยแต่แท้จริงสูตรไดเอท 16: 8 เป็นหนึ่งในวิธีการลดน้ำหนักสำหรับดาราฮอลลีวูดมากมายซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก วันนี้เราจึงจะขอพาสาวๆมาล้วงลับไขข้อข้องใจหากอยากเลือกลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้จะดีกับตัวเองแล้วเห็นผลลัพธ์ที่ดีได้จริงไหม พร้อมแล้วตามเราไปตามหาสาระดีดีนี้กันได้เลยค่ะ
สูตรไดเอท IF 16 :8 คืออะไร
วิธีการทานอาหารสูตร IF 16 :8
การทานอาหารในสูตรนี้จะใช้ตัวเลข 16 :8 มาเป็นตัวกำหนดช่วงเวลาในการเริ่มทานและงดการทานในแต่ละช่วง ยกตัวอย่างเช่น หากเราตื่นนอนประมาณ 7 โมงเช้า แล้วเริ่มต้นทานอาหารเช้าตอน 8 โมง ให้นับจำนวนชั่วโมงหลังจากนี้ไปอีก 8 ชั่วโมง ช่วงเวลา 8 ชั่วโมงหลังอาหารเช้ามื้อแรกจะเป็นช่วงเวลาที่เราทานอาหารได้ตามสบายจนอิ่ม ไม่โฟกัสว่าต้องเป็นโปรตีน ไม่ทานไขมัน แต่เน้นทานอาหารให้ครบ 5 หมู่หลากหลายแบบปกติ พอครบ 8 ชั่วโมงในเวลา 4 – 5 โมงก็จะครบกำหนดเวลาที่เราทานอาหารได้ หลังจากนั้นอีก 16 ชั่วโมง จะเป็นช่วงเวลาของการงดอาหารทุกชนิดที่มีแคลอรี่โดยเด็ดขาด ดื่มได้เฉพาะน้ำเปล่า ชา หรือกาแฟดำ ทำแบบนี้สลับกันไปทุกวันก็จะช่วยให้การทานอาหารถูกจัดให้เป็นระบบระเบียบส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักมากขึ้น
ทำ IF ทานอาหารประเภทไหนได้บ้าง
การทานแบบ IF ไม่ได้เน้นงดแป้งหรือไขมันมากจนเกินไป แต่เน้นการทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ทั่วไป กินได้ทุกประเภทแบบไม่ต้องมานั่งนับปริมาณแคลลอรี่ เน้นทานให้อิ่มในช่วงเวลา 8 ชั่วโมง ให้ร่างกายได้รับพลังงานสารอาหารที่เพียงพอลดน้ำหนักได้แบบไม่หิวโหย
ประโยชน์ของการทำ IF 16 :8
- ไม่ต้องอดอาหารจนทรมาน
- ช่วงงดอาหาร ร่างกายหลั่ง Growth Hormone เสริมสร้างกล้ามเนื้อกระตุ้นการสลายไขมันได้ดี
- การทานแบบ IF ทำให้ฮอร์โมน Insulin รักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้คงที่ สลายไขมันได้ดีขึ้น
- ร่างกายสามารถนำไขมันมาใช้ได้เต็มที่ไม่มีไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ
- มีระเบียบวินัยในการทานมากขึ้น
- ลดการทานจุกจิกจนนำไปสู่การเกิดโรคอ้วน
ข้อควรรู้เมื่อเลือกควบคุมอาหารทำ IF 16 :8
1.การทำ IF16: 8 ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน
ถึงแม้จะมีใครหลายคนประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้กันเป็นจำนวนมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ได้เตือนว่าการอดอาหารเป็นระยะ ๆ นั้นไม่เหมาะสำหรับทุกคน ยกตัวอย่างเช่น คนที่ต้องทำงานหนักใช้พลังงานทั้งวันอยู่ตลอดเวลา หรือทำงานแบบไม่เป็นเวลาเพราะอาจทำให้การลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ไม่ได้ผล แถมยังได้รับพลังงานไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือมีปัญหาสุขภาพก็ไม่สามารถใช้วิธีการลดน้ำหนักแบบนี้ได้ เพราะวิถีการทานแบบเป็นระบบแบบนี้อาจส่งผลกระทบทางด้านสุขภาพทำให้ร่างกายแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้นควรระวัง
2.ต้องได้รับคำแนะนำจากผู้แพทย์เชี่ยวชาญ
ก่อนที่จะลองอดอาหารเป็นระยะสั้นๆด้วยวิธีนี้ ทางที่ดีเราควรปรึกษานักโภชนาการ เพื่อศึกษาตรวจสอบสภาพร่างกายของเราว่าแข็งแรงเหมาะสมพร้อมลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ไหม เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่รู้ตัว นอกจากนี้หากเราต้องการที่จะลองอดอาหารเป็นระยะสั้นๆด้วยวิธีนี้ลองเริ่ม ต้นด้วยการจัดการวงจรการทานแบ่งเวลาทานเป็น 12 – 14 ชั่วโมงแล้วค่อยงดอาหารจากนั้นค่อยๆลดลงทีละน้อยเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ไม่ลดฮวบฮาบจนเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
อีกหนึ่งวิธีดีดีที่ช่วยลดน้ำหนักได้แบบไม่ทรมาน แถมยังดีต่อสุขภาพ หากใครกำลังมองหาตัวเลือกการลดน้ำหนักดีดีลองนำวิธีนี้ไปปรับใช้กันดู ที่สำคัญเช็คความพร้อมของร่างกายตัวเองก่อนทำเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจส่งผลต่อสุขภาพกันด้วยนะคะ
ที่มา:afamily
ที่มาภาพ:vgcloud,tieudungvne,cafebiz,vietnamdaily,sohanews,
24h,baomoi,anh,yan
