Now Reading
ไขข้อข้องใจ! ทานผลไม้ก่อนหรือหลังมื้ออาหาร ได้ประโยชน์สูงสูด

ไขข้อข้องใจ! ทานผลไม้ก่อนหรือหลังมื้ออาหาร ได้ประโยชน์สูงสูด

ผลไม้มีประโยชน์ต่อร่างกายสูง อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ต่างๆ ที่ดีต่อร่างกาย แต่พบว่าบุคคลบางกลุ่มที่ทานผลไม้กลับได้ผลลัพธ์เป็นอาการแสบปวดท้อง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการทานผลไม้ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมจึงทำให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายเช่นนี้ แล้วควรทานผลไม้ตอนไหนให้ได้ประโยชน์มากที่สุดโดยไม่ทำร้ายร่างกายกันดีล่ะ วันนี้เราจะพาไปค้นหาคำตอบเหล่านี้กันค่ะ

ทานผลไม้อย่างไรถึงส่งผลดีต่อสุขภาพ

ผลไม้ มีส่วนช่วยลดน้ำหนักและยังเป็นแหล่งสารอาหารมากมายที่จำเป็นต่อร่างกาย ส่งผลให้ผิวสวยสุขภาพดี แต่ในขณะที่ทุกคนทานผลไม้แสนอร่อยกันอย่างเพลิดเพลิน กลับมีคนบางกลุ่มมีอาการปวดท้องหรือแสบท้องหลังจากทานผลไม้ นี่จึงเป็นที่มาของการค้นหาคำตอบว่า การทานผลไม้ในช่วงก่อนหรือหลังมื้ออาหารมีผลต่อสุขภาพหรือไม่อย่างไร แล้วทำไมคนกลุ่มนี้จึงมักมีอาการปวดท้องหลังจากทานผลไม้
ความจริงแล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสภาพร่างกายและระบบย่อยอาหารในแต่ละบุคคล หากเรามีระบบย่อยอาหารที่อ่อนไหวหรือบอบบางมากเกินไปก็อาจจะส่งผลให้ข้อจำกัดในการทานผลไม้มีมากขึ้น นั่นก็คือควรทานผลไม้หลังอาหาร เพื่อให้กรดในกระเพาะไม่ทำร้ายระบบย่อยอาหารมากเกินไป ในขณะที่คนที่มีระบบย่อยอาหารปกติ สามารถทานผลไม้ได้ทุกชนิดและทุกช่วงเวลา ซึ่งสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลเป็นตัวชี้วัดการทานผลไม้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ดีกว่าสิ่งใด

คน 4 ประเภทที่ควรเลือกทานผลไม้ในช่วงเวลาเหมาะสม

  1. ผู้ที่มีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากหรือมีแผลในกระเพาะอาหารและเป็นโรคกรดไหลย้อน ไม่แนะนำให้ทานผลไม้ก่อนอาหารหรือในขณะท้องว่าง เพราะอาจทำให้เกิดอาการแสบท้อง โรคที่เป็นอยู่อาจจะกำเริบหนักกว่าเดิม
  2. หากต้องการลดน้ำหนักด้วยการกินผลไม้ ควรเลือกทานผลไม้ก่อนมื้ออาหาร จะช่วยทำให้อิ่มท้อง ไม่ทานอาหารในมื้อหลักเยอะเกินไป แต่กรณีนี้เหมาะสมกับผู้ที่มีระบบทางเดินอาหารปกติเท่านั้น
  3. สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ภาวะโลหิตจางหรือขาดธาตุเหล็ก หากอยากทานผลไม้ให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกายสูงสุด แนะนำให้ทานผลไม้ก่อนหรือหลังมื้ออาหารประมาณ 30 นาที เน้นทานผลไม้จำพวกที่มีวิตามินซี เช่น ฝรั่ง มะเขือเทศ และกีวี่ การทานผลไม้ในช่วงเวลานี้จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กและนำไปใช้ได้ดียิ่งขึ้น
  4. ผู้ที่มีอาการแพ้ มีแนวโน้มที่จะมีอาการไอและจามหลังจากรับประทานผลไม้เย็นๆ ลองปรับสภาพร่างกายด้วยการทานผลไม้ในช่วงบ่ายก่อนเวลาบ่ายสอง และหยุดทานผลไม้ในเวลากลางคืน วิธีนี้จะช่วยสร้างภูมิต้านทานในร่างกาย ลดอาการภูมิแพ้ ทำให้สุขภาพแข็งแรงยิ่งขึ้น

ผลไม้ 4 กลุ่มที่ควรเลือกทานในเวลาที่เหมาะสม

1. กลุ่มผลไม้ที่มีน้ำเยอะ

กลุ่มผลไม้ที่มีน้ำเยอะจำพวกลูกแพร์ แตงโม มะเขือเทศ และลูกพลับ  เป็นตัวช่วยลดความอ้วนที่ดี ควรทานก่อนมื้ออาหารเพราะทำให้เราอิ่มท้อง ลดการทานอาหารในมื้อหลักได้ อย่างไรก็ตามผลไม้เหล่านี้ก็มีสารที่เป็นกรด ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้ด้วย เช่น ลูกพลับมีกรดแทนนิกในปริมาณสูง หากรับประทานในขณะท้องว่างอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องได้ ดังนั้นคนที่ระบบทางเดินอาหารไม่ค่อยดีควรระวังนะคะ

2. กลุ่มผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว

ไดแก่ ส้ม, สตรอว์เบอร์รี่ และแครนเบอร์รี่ จะช่วยกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารและไม่ควรรับประทานในขณะท้องว่าง

3. ผลไม้ที่มีเอนไซม์ย่อยอาหาร

ผลไม้กลุ่มนี้ ได้แก่ สับปะรด, มะละกอ และกีวี่ มีเอนไซม์ที่สามารถย่อยสลายโปรตีนในร่างกายได้ หากทานในขณะท้องว่างจะทำให้ปวดท้อง ผลไม้กลุ่มนี้จึงเหมาะที่จะรับประทานหลังมื้ออาหาร เพราะจะช่วยปรับปรุงระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

4. ผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกลาง

ผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกลาง ไม่เปรี้ยวเกินไป จะไม่ค่อยระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารมากนัก จึงเหมาะที่จะทานก่อนมื้ออาหารและเป็นตัวช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ผลไม้กลุ่มนี้ก็เช่น  ฝรั่ง องุ่น แอปเปิ้ล และมังคุด สามารถทานได้ตลอดทั้งวันในช่วงที่ท้องยังว่าง แน่นอนว่าเหมาะแก่การทานก่อนมื้ออาหารด้วย แต่ก็อย่าทานมากเกินไปเพราะจะอิ่มท้องเสียก่อนที่จะทานมื้อหลัก หากใครกำลังลดน้ำหนักก็ลองนำไปเป็นเมนูทางเลือกดู แต่ทั้งนี้ก็ควรเช็กปริมาณน้ำตาลในผลไม้แต่ละชนิดให้ดีด้วยนะคะ

ทานผลไม้ก่อนหรือหลังก็ควรเช็กสภาพร่างกายของเราเป็นตัวตั้ง การทานผลไม้ให้ได้ประโยชน์มากที่สุดจึงไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ช่วงเวลาเพียงอย่างเดียว ควรเลือกทานให้เหมาะสมกับร่างกายและออกกำลังกายร่วมด้วย ไม่ว่าจะทานตอนไหนก็ได้ประโยชน์สูงสุดแน่นอนค่ะ

ที่มา: sundaymore
ที่มา: fruitsfromchile,PiAXXiv45eonrWF,sohu,chuu,i.pinimg.1,i.pinimg.2,i.pinimg.3,i.pinimg.4
View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top