ปัจจุบันโลกมะเร็งอยู่ใกล้ตัวเรามาก ในอดีตโรคมะเร็งดูเป็นโรคของคนสูงอายุ แต่ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าสาวๆที่มีอายุน้อย บางคนอายุเพียง 25-30 ปี ก็มีโอกาสป่วยเป็นโรคมะเร็งสูงขึ้น ในบทความนี้เราไม่ได้จะมาบอกข้อมูลให้เพื่อนๆ หวาดกลัวโรคมะเร็ง แต่เราจะมาสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้หญิงทุกคนได้ นั่นก็คือ โรคมะเร็งปากมดลูกค่ะpinterest
นิตยสารเกี่ยวกับโรคมะเร็ง the journal Cancer จากประเทศสหรัฐรายงานว่า มีจำนวนผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และในปี 2017 นี้ มีผู้หญิงป่วยเป็นโรคนี้ และเสียชีวิตลงถึง 4,000 คน ในแต่ละปีสาวๆ ที่เข้าตรวจเช็คสุขภาพประจำปี ในประเทศสหรัฐมีจำนวนหลายล้านคน แต่มีเพียงประมาณ 270,000 คนเท่านั้น ที่ทำการตรวจเช็คหาเซลล์ผิดปรกติ หรือเซลล์มะเร็งในร่างกาย ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก เพราะยังมีผู้หญิงอีกหลายล้านคน ที่ไม่ได้ตรวจเช็คเรื่องนี้ และทำให้มีจำนวนผู้ที่โอกาสเสี่ยงจะเป็นโรคมะเร็งสูงขึ้นด้วย!!
mayoclinichealthsystem
cancerhospitalturkey
ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่ผู้หญิงเราจะต้องตะหนัก และหันมาใส่ใจเกี่ยวกับอันตรายจากโรคมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่เนินๆ เพราะถ้าเราพบภาวะเซลล์ผิดปรกติตั้งแต่เริ่มแรก ก่อนที่มันจะก่อตัวเป็นโรคมะเร็ง โอกาสจะรักษาให้หายก็จะง่ายขึ้น และพบว่าผู้หญิงที่ตรวจพบเซลล์ที่ผนังปากมดลูกผิดปรกติในภาวะเริ่มต้น สามารถรักษาให้หายขาดได้ถึง 93% และนี่คือ 6 เรื่องสำคัญที่ผู้หญิงควรรู้ ควรทำ เพื่อรักษามดลูกของเราให้ปลอดภัย มีสุขภาพดี ห่างไกลจากการเป็นโรคมะเร็งค่ะ
sciencephoto
1.ตรวจสุขภาพทุกปีแล้ว ก็ควรจะไปพบสูตินรีแพทย์ด้วย!!
goodhousekeeping
การตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เป็นเรื่องที่สาวๆรักสุขภาพต้องทำค่ะ แต่อีกเรื่องหนึ่งที่สาวๆห้ามมองข้าม ก็คือ การไปพบสูตินรีแพทย์ และทำการตรวจภายใน ซึ่งเป็นเรื่องที่สาวๆที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไปควรทำนะคะ ในช่วงอายุ 20 ปี ควรไปตรวจเช็คภายในมดลูก 1 ครั้งต่อสามปี เพราะช่วงนี้ เป็นช่วงที่มดลูกของผู้หญิงจะเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์อย่างเต็ม จึงมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดภาวะติดเชื้อ ที่จะทำให้เกิดภาวะเซลล์ผิดปรกติขึ้นในมดลูกของเราได้ค่ะ และเมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 30 ปีแล้ว สาวๆก็ควรจะต้องตรวจภายในอย่างต่อเนื่อง โดยตรวจเช็คเป็นประจำ อย่างน้อยทุกๆ 3-5 ปีเช่นเดียวกันค่ะ
2.และเมื่ออายุถึง 30 ปีแล้ว ต้องตรวจ PAP/HPV ด้วย!!
shape
การตรวจ HPV คือการตรวจหาภาวะการติดเชื้อไวรัสที่ปากมดลูก ซึ่งเชื้อไวรัสนี้เป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ และผู้หญิงทุกคนมีโอกาสติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ผ่านทางการมีเพศสัมพันธุ์ อาการของการติดเชื้อ อาจจะไม่รุ่นแรง ขึ้นอยู่กับเชื้อโรคแต่ละชนิดที่เราได้รับค่ะ และเราอาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อยู่ ซึ่งอาจจะกินเวลานาน 1-2 ปี การติดเชื้อเป็นระยะเวลานานๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวนี้แหละค่ะ คือสาเหตุของการเกิดภาวะเซลล์ผิดปรกติ ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้!!
sowetanlive
และการตรวจแบบPAP หรือแปปเทสต์ ก็คือตัดชิ้นเนื้อเล็กๆบริเวณปากมดลูก ไปตรวจหาเซลล์ที่อาจจะเกิดภาวะผิดปรกติ ซึ่งสามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์มะเร็งได้ การตรวจด้วยวิธีการนี้ จะทำให้เรารู้ผลความเสี่ยง ในการเป็นโรคมะเร็งอย่างชัดเจน และสามารถรักษาได้ทันท่วงที่ สาวๆที่มีญาติสนิทที่เคยเป็นมะเร็ง ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ควรตรวจเช็คด้วยวิธีการนี้ค่ะ
3.ถุงยาง!! ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้
independent
นอกจากป้องกันโรคติดต่อร้ายแรง อย่างโรคเอดส์ และป้องกันภาวะตั้งครรภ์ไม่พึ่งประสงค์ได้แล้ว การสวมถุงยางขณะมีเพศสัมพัธุ์ยังช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่ปากมดลูกได้ ถุงยางจึงช่วยป้องกันภาวะHPVให้กับผู้หญิงเราได้ด้วย เพราะเชื้อไวรัสบางชนิดก็สามารถซ่อนตัวอยู่ในร่างกายของเราเป็นเวลาหลายปี โดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่แสดงอาการ และนั้นแหละค่ะ คือสาเหตุการเกิดโรคมะเร็งได้ เพราะฉะนั้นปลอดภัยสวมถุงยางดีกว่าค่ะ
4.ไม่ใช่แค่สาวๆวัยรุ่นเท่านั้น ที่จะมีความเสี่ยงติดเชื้อHPV สาวๆ ทุกวัยก็มีโอกาสติดได้!!
เพราะเป็นเชื้อไวรัสที่ไม่สามารถสังเกตเห็นอาการได้ด้วยตาเปล่า เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าใครมีเชื้อไวรัสนี้อยู่ ดังนั้นสาวๆทุกวัยที่มีเพศสัมพันธุ์จึงมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัส HPV ได้ค่ะ การใส่ถุงยางเมื่อเรามีเพศสัมพันธุ์ โดยเพาะกับคนที่เพิ่งเริ่มคบหากัน จึงเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ นอกจากวิธีการป้องกันด้วยการสวมถุงยางแล้ว ยังมีการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV ด้วยค่ะ แต่วัคซีนแบบฉีดจะมีราคาสูง เข็มละ 500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 17,500 บาทไทย ซึ่งความจริงแล้ว การป้องการด้วยการสวมถุงยาง และไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจเช็คภายในเป็นประจำ ก็เป็นวิธีการป้องกันที่ได้ผลครอบคลุม ไม่สิ้นเปลืองเงินเมื่อเทียบกับการฉีควัคซีนค่ะ
5.ประจำเดือนมาผิดปรกติ คือสัญญาณอันตราย!!
metro
ประจำเดือนที่มาผิดปรกติมากๆ อย่างเช่น มีเลือดไหลเยอะๆ ติดต่อกันหลายอาทิตย์ มีเลือดประจำเดือนไหลหลังจากมีเพศสัมพันธ์ทันที่ เลือดประจำเดือนที่ไหลออกมามีสีแดงสด และมีกลิ่นเหม็นผิดปรกติไปจากเดิม กลิ่นเหม็นคาวเหมือนปลาเน่า ถึงแม้อาการประจำเดือนมาผิดปรกติเหล่านี้อาจจะไม่ได้เกิดจากภาวะมะเร็งเสมอไป แต่มันก็บ่งบอกได้ว่าเกิดปัญหาขึ้นในมดลูกของเรา สาวๆควรรีบไปตรวจกับสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะปัญหาเล็กๆ อาจจะเปลี่ยนไปเป็นปัญหาใหญ่ อย่างโรคมะเร็งได้ค่ะ
6.ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็ใช่ว่าจะไม่เสี่ยงกับการเป็นมะเร็งปากมดลูก!!
เพราะเชื้อ HPV นั้นสามารถติดต่อกันทางปากและน้ำลายได้ค่ะ การสูบบุหรี่ ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ขวดเดียวกัน หรือใช้ภาชนะรวมกับผู้ติดเชื้อ HPV สามารถทำให้เราติดเชื้อไวรัสที่เป็นอันตรายต่อมดลูกของเราตัวนี้ได้ ดังนั้น การรักษาสุขภาพอานามัย ไม่ดื่มน้ำแก้วเดียวกันกับผู้อื่น ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้ค่ะ แต่ถ้าจะให้ปลอดภัยที่สุด การตรวจสุขภาพประจำปี และการตรวจภายในเป็นประจำทุก 3 ปี ก็จะช่วยทำให้สาวๆป้องกันภาวะความเสี่ยงจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้ดีที่สุดค่ะ
นอกจากการติดเชื้อไวรัส ความผิดปรกติทางพันธุกรรม และความเสี่ยงจากสภาวะภายนอก อย่างเช่น การกินอาหาร การใช้แป้ง ใช้สบู่ ครีมทาผิว หรือผ้าอนามัย ก็มีส่วนที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้ค่ะ โรคมะเร็งจึงกลายเป็นภัยร้ายที่เข้าใกล้ตัวสาวๆ เข้ามาเรื่อยๆ การสร้างสุขภาพที่ดี กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกาย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจภายในทุกๆ 3 ปี จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สาวๆทุกคนไม่ควรมองข้าม ถึงมะเร็งจะอันตรายมาก แต่ถ้าเรามีความเข้าใจ รู้เท่าทันโรคร้าย ก็สามารถป้องกันอันตรายนี้ได้ค่ะ!!
เป็นคนชอบอ่าน เลยชอบเขียน ยินดีที่ได้รู้จักกันกับเพื่อนใน Akerufeed ทุกคนค่ะ รอตามตามผลงานของเราด้วยนะ ถึงจะใหม่ แต่ตั้งใจเต็มร้อย Fightingค่ะ!!