ถ้าคุณเป็นคนที่มักจะมีอาการประหม่า คุณก็อาจจะมีนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก อย่างเช่นการกัดเล็บ, นิ้วมือ หรือบางทีก็กัดฟัน แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องที่ปกติเท่าไรนัก!
การที่ฟันและริมฝีปากกระทบกันบ่อยเกินความจำเป็นไม่ทำให้เกิดผลดีต่อสุขภาพของคุณ สิ่งนี้อาจมาจาก Dermatophagia ที่ให้ระดับความรุนแรงแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล ที่จริงแล้ว Dermatophagia หมายถึง “การกินผิวหนัง” ซึ่งจะเกิดขึ้น 2 ใน 7 จากคนที่ชอบเคี้ยวและดึงผิวบริเวณรอบๆ เล็บ ทำให้เล็บและนิ้วมือของคุณหมดสวย!
แล้วสาเหตุของมันมาจากอะไร?
มีงานวิจัยที่เชื่อมโยงพฤติกรรมกล่าวว่า Dermatophagia เป็นอาการที่ผิดปกติที่เกิดจากแรงกระตุ้นการควบคุม, การย้ำคิดย้ำทำ และระบบการจำแนกโรคทางจิตเวช (DSM)
นิสัยของ Dermatophagia สามารถเปลี่ยนเป็นวงจรอุบาทว์ ที่ก่อให้เกิดความอับอายและรู้สึกผิดกับเจ้าของนิ้วมือ จนกระทั่งนำไปสู่ความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น และยังกลายเป็นพฤติกรรมที่มีความจำเป็นเมื่อรู้สึกอยากผ่อนคลายอีกด้วย
ความเสี่ยงของมันคืออะไร?
ในที่สุดผู้ที่กำลังเผชิญกับพฤติกรรม Dermatophagia ก็จะต้องเจอกับพฤติกรรมที่รุนแรง มันไม่เพียงแค่ทำให้คุณเสียโฉม แต่มันจะทำให้คุณปวดจากนิ้วมือที่ลอก และเกิดความอับอายเมื่อผู้อื่นเห็นเล็บของคุณ – และบางทีก็อาจทำให้คุณมีแนวโน้มของการติดเชื้อ
หากคุณโชคดีมันก็จะพัฒนาไปเป็นการมีหนังที่หนาด้าน (ตาปลา) จากร่างกายของคุณที่พยายามปกป้องตัวเอง
source: weheartit
หยุดพฤติกรรมการกัดเล็บอย่างไร?
Dermatophagia อยู่ภายใต้พฤติกรรมการทำซ้ำ มีการศึกษามากมายที่พยายามหาทางแก้ไขพฤติกรรมนี้ ซึ่งก็มีผลลัพธ์ที่เป็นทางเลือกในการรักษาและมีประโยชน์จากการค้นคว้าในเรื่องนี้มากๆ
การรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่มีประโยชน์ มันเกี่ยวข้องกับการเสริมพลังทั้งบวกและลบในการแก้ไขจากต้นเหตุของปัญหา – แก้ไขการย้ำคิดย้ำทำ
การเสริมพลังบวกจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยปกติการบำบัดโรคจะมีการทำสัญญาควบคู่ไปกับระบบการให้รางวัล เพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจและบรรลุถึงเป้าหมายได้สำเร็จ
การเสริมพลังลบเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกันอย่างแน่นอน ควรมีบทลงโทษหากทำไม่สำเร็จ เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญหากคุณต้องการทำงานอย่างมืออาชีพ และมันจะกลายเป็นเรื่องง่ายหากคุณชนะใจตัวเอง ทำให้พฤติกรรมนี้ไม่มีความจำเป็นในชีวิตคุณอีกต่อไป – และให้จำไว้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ
source: sites.psu.edu , davidwolfe
การฝึกนิสัยเป็นการรักษาที่ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก สิ่งนี้จะเป็นตัวนำให้คุณรู้สึกตัวและผลักดันให้คุุณทำสิ่งที่เป็นอันตรายกับตัวเองได้น้อยกว่า อย่างเช่น คุณอาจจะเลือกบีบลูกบอลเพื่อความเครียด หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ให้มือของคุณไม่ว่างและอยู่ห่างจากปากของคุณ
เช่นเดียวกับอาการป่วยทางจิตอื่นๆ ที่อาจจะต้องอาศัยความอดทน มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้คุณกลายเป็นคนที่มีสุขภาพดีและมีความสุขกันเถอะ!
หวังว่าวีดิโอด้านล่างนี้จะช่วยเป็นแรงบันดาลในการพยายามที่จะเลิกกัดเล็บของใครหลายๆ คนนะ
หลงใหลในความเป็นญี่ปุ่น~ ชอบเล่าเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ ยินดีที่ได้รู้จักนะ : )