มีรอบเดือนแล้วหงุดหงิด หิวตลอดเวลา เป็นสิว ไม่อยากไปทำงาน! เป็นคำถามที่นอกจากสาวๆ จะสงสัยแล้ว หนุ่มๆ ก็สงสัยเช่นกันว่าเอ๊ะ.. ทำไมช่วงวันนี้ของเดือนสาวๆ ถึงเปราะบาง พูดนิดเสียงดังหน่อยร้องไห้แล้ว วันนี้ พี่อะเครุจะมาไขข้อสงสัย 28 วันในช่วงรอบประจำเดือน ร่างกายของสาวๆ เป็นอย่างไรบ้าง
ประจำเดือนนอกจากจะสร้างความไม่สบายตัวให้แล้ว บางทีสาวๆ ยังหาคำตอบไม่ได้ด้วยค่ะว่า เราหงุดหงิดอะไร ทำไมเราเป็นแบบนี้ การนับรอบประจำเดือนถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับสาวๆ นอกจากจะช่วยให้เรารู้รอบประจำเดือนครั้งถัดไปแล้ว ใครที่วางแผนมีบุตรยิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ และทำให้เราสามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติของร่างกายเราได้ด้วยค่ะ
สารบัญ
วันที่ 1 – 2 และ 3 – 5 ของการมีประจำเดือน
ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ มีอาการเมื่อยล้า และมีอาการหดตัวของมดลูก ทำให้เกิดอาการปวดท้องส่วนล่าง ช่วงนี้ควรออกกำลังกายเบา เช่น โยคะหรือเดิน จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องและทำให้อารมณ์ดีขึ้น มีสมาธิ และควรทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น บล็อคโคลี่ เนื้อแดง มะเขือเทศ และผักโขม
ส่วนวันที่ 3 – 5 เป็นช่วงหมดรอบเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เรามีแรง มีพลัง ทำให้เรารู้สึกดี รื่นเริง เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการสะสางอะไรที่คั่งค้าง เพราะมีแรงมากขึ้นค่ะ
วันที่ 6 – 9 และ 10 – 13
หลังจากหมดประจำเดือนแล้ว เป็นช่วงที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มขึ้น ใบหน้าของเราจะดูเพอร์เฟกต์ เข้ารูปกว่าปกติ ผิวเปล่งปลั่ง ฮอร์โมนเทสเทอโรนที่เพิ่มขี้นจะทำให้เรามีความมั่นใจ คล่องตัว เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ
ส่วนช่วงวันที่ 10 – 13 ช่วงนี้ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะพุ่งสูงสุด เป็นช่วงที่สาวๆ จะรู้สึกเซ็กซี่ที่สุด แถมยังพร้อมกับการมีลูก ใครที่วางแผนที่จะมีน้องตัวน้อยให้เลือกช่วงนี้เลยค่ะ เป็นช่วงที่อารมณ์ทางเพศค่อนข้างพลุ่งพล่าน ช่วงนี้เราจะมองโลกในแง่ดีแถมชอบเข้าสังคม เป็นช่วงที่เหมาะกับการออกไปพบปะสังสรรค์สุดๆ ส่วนอาหารควรทาน ได้แก่ อะโวคาโด โยเกิร์ต อัลมอนด์ แซลมอน เพื่อช่วยบำรุงฮอร์โมนให้พร้อมแก่การตกไข่นั่นเอง
วันที่ 14 และ 15 – 18
วันตกไข่เป็นโอกาสทองของการมีลูก ช่วงนี้ต้องรักษาสมดุลของฮอร์โมนด้วยการทานอาหารที่มีเอสโตรเจนสูง เช่น ถั่ว ส่วนการออกกำลังการควรออกเบาๆ ก็พอค่ะ
ส่วนวันที่ 15 – 18 ช่วงนี้อารมณ์จะแปรปรวนฉับพลัน อารมณ์รุนแรงในทุกๆ ด้าน แถมยังรู้สึกเหนื่อยง่ายอีกด้วย ควรทานอาหารที่มีไขมันดี เช่น ถั่ว อะโวคาโด และปลา เป็นต้น
วันที่ 19 -22 และ 23 – 25
ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำลง ส่วนฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรน และโพรเกสเทอโรนพุ่งขี้นอย่างรวดเร็ว ช่วงนี้สิวจะมาบุกหน้าสาวๆ เพราะมีน้ำมันที่ถูกผลิตออกมาเยอะค่ะ และผิวหน้าจะเซนสิทีฟมาก ช่วงนี้สาวๆ ควรทานอาหารคลีนหรือเฮลตี้เป็นหลักเลย
ช่วงวันที่ 23 – 25 ระดับฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนสูงมาก อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ไม่ค่อยมีอารมณ์ทางเพศ ไม่อยากทำอะไรเลย มีอาการเฉยชา ขี้เกียจ เกิดอาการ PMS คือ รู้สึกเหมือนว่าตัวเองป่วย ไม่สบายตัว มีอารมณ์หงุดหงิด เหวี่ยงวีนง่ายกว่าปกติ โดยมักจะเป็นในช่วงก่อนมีประจำเดือน
วันที่ 26 -28
ช่วงนี้เหมาะแก่การออกกำลังกาย โดยในระยะนี้จะมีอาการปวดหน้าอก ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีคาเฟอีน ลดน้ำตาล และดื่มน้ำให้เพียงพอนะคะ เพื่อเตรียมพร้อมกับช่วงประจำเดือนอีกครั้ง
ช่วงรอบประจำเดือนของเราเป็นสิ่งที่ควรรู้และต้องหมั่นสังเกตตัวเองกันนะสาวๆ ตอนนี้ก็มีทั้งแอปพลิเคชั่นไว้จดรอบเดือนและคาดการณ์การตกไข่ หรือวันที่มีอัตราการตั้งครรภ์ให้ลองเลือกใช้อยู่หลายแอปฯเลย สาวๆ ทุกคนควรดูแลสุขภาพทั้งในช่วงมีประจำเดือนและตลอดเดือนนะคะ หมั่นสังเกตว่าเรามีอาการอย่างไรบ้าง หากมีอะไรผิดปกติจะได้รู้เท่าทันค่ะ
ที่มา: glamour, stylecaster, เกร็ดความรู้, honestdoctor
Beauty Product Analyzer/Writer เป็นคนที่ชื่นชอบเกี่ยวกับครื่องสำอางถูกและดี ราคา คอยอัพเดทเทรนด์เครื่องสำอางใหม่ๆ ชอบลองของใหม่ๆ เลยอยากแนะนำให้คนอื่น จึงเริ่มเขียนรีวิวแนะนำเครื่องสำอางที่ดีและคุ้มค่ามากว่า 7 ปีแล้ว ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับทริคที่ช่วยให้สาวๆ มีสุขภาพดี และชื่นชอบนักร้องและวงการเพลง K-pop กว่า 10 ปี