การเปลี่ยนแสกผม นอกจากจะช่วยเปลี่ยนลุคใหม่ได้แบบง่ายๆ โดยไม่ต้องเข้าร้านทำผม เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ขี้เบื่อ แต่เวลาเปลี่ยนแสกผมแต่ละครั้งหลายคนกลับเจอปัญหา แสกผมไม่ไปตามที่ใจคิดสักที วันนี้พี่อะเครุจึงได้นำ 5 เคล็ดลับการเปลี่ยนแสกผมแบบง่ายๆ ไม่ว่าจะแสกไปทางไหนก็รอดมาฝากกันค่ะ และสำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจว่าจะเปลี่ยนแสกผมไปทางไหนดีให้เข้ากับบุคลิก หรือเหตผลดีๆ ในการเปลี่ยนแสกผม ในบทความนี้เราก็มีข้อมูลดีๆ มาฝากด้วยนะ ตามไปดูกันเลย
ทำไมต้องเปลี่ยนแสกผม
การแสกผมข้างเดิมเป็นระยะเวลานาน จะทำให้เส้นผมบางลงได้ เพราะผมฝั่งนั้นจะแบกน้ำหนักไว้มากเกินไป แถมยังทำให้แสกผมโดนแสงแดดทำร้ายได้ง่ายเป็นระยะเวลานานขึ้นอีกด้วย ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนแสกผมเป็นประจำทุกสามเดือน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันปัญหาผมบางแล้ว ยังช่วยเปลี่ยนบุคลิกให้ดูดี และไม่น่าเบื่ออีกด้วย
เลือกแสกผมยังไงให้เข้ากับบุคคลิก
1. แสกกลาง บุคลิกดูเรียบร้อย
ผมแสกกลาง เป็นทรงผมที่ช่วยสร้างความสมดุลให้กับรูปหน้า ไม่ว่าจะเป็นรูปหน้าแบบไหนก็เข้า เหมาะมากๆ โดยเฉพาะสำหรับใครที่อยากเปลี่ยนลุคให้ดูเรียบร้อย เป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่ ดูภูมิฐาน สุขุม ผมแสกกลางถือว่าเป็นทรงผมไม่พลาดเลยค่ะ แถมยังเข้าได้ดีกับทุกทรงผม ไม่ว่าจะเป็นผมสั้น ผมยาว ผมตรงหรือผมดัดลอน หากอยากเปลี่ยนลุคให้ดูเรียบร้อย แต่ยังแฝงความขี้เล่น น่ารัก ทรงผมแสกกลางและดัดลอนก็ถือว่าตอบโจทย์มากๆ
2. แสกผมไปด้านข้างเล็กน้อย เปลี่ยนบุคลิกให้ดูน่ารัก
สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนลุค ไม่ชอบความจำเจ หรืออยากเปลี่ยนบุคลิกให้ดูน่ารัก เป็นสาวหวาน แนะนำว่าให้แสกข้างเล็กน้อย หรือแบ่งแสกผมไปด้านข้างได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นแสกด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ได้เช่นกันค่ะ นอกจากนี้การแสกผมไปด้านข้าง ยังสามารถประยุกต์เข้ากับทรงผมหน้าม้า แบบปัดไปด้านข้างนิดๆ เพิ่มความเก๋ให้ใบหน้าได้อีกด้วย
5 วิธีเปลี่ยนแสกผมแบบง่ายๆ
1. เปลี่ยนแสกผมขณะผมเปียก
วิธีเปลี่ยนแสกผมที่ง่ายที่สุด คือการแสกผมตอนเปียกเพราะจะทำให้เส้นผมของเราอ่อนตัวลงและสามารถแบ่งผมได้ง่ายขึ้น แต่หากใครที่ไม่อยากสระผมใหม่จริงๆ ก็แนะนำว่าให้ใช้น้ำพรมหมาดๆ บริเวณโคนผมที่ต้องการแสกให้เส้นผมของเรามีความชุ่มชื้น ก่อนจะเริ่มต้นทำการเปลี่ยนแสกผมเพื่อทำให้ผมเซตตัวได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ
2. กำหนดเส้นแบ่งผมให้ชัดเจน
หลังจากที่ผมเปียกเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปก็คือการกำหนดเส้นแบ่งผมหรือจุดที่ต้องการแสกผมให้ชัดเจนว่าอยากให้ผมแสกที่ประมาณไหน ในส่วนนี้แนะนำว่าให้ใช้หวีกะตำแหน่งและลองแสกผมดูคร่าวๆ ก่อน ซึ่งหลายคนอาจจะเจอปัญหาเส้นผมไม่ไปตามแสกใหม่ที่เปลี่ยนแนะนำว่าให้ติดกิ๊บทิ้งไว้เพื่อกำหนดรอยแสกให้ชัดเจนก่อนเพื่อทำการเซตรอยแสกให้อยู่ตัวในขั้นตอนถัดไป
3. เป่าผมไปยังฝั่งตรงข้ามกับแสกผมที่แบ่งไว้
เมื่อกำหนดเส้นแบ่งผมให้ชัดเจนแล้ว ก็ให้ใช้ไดร์เป่าผมไปยังอีกฝั่งที่ตรงข้ามกับแสกผมที่กำหนดไว้ วิธีนี้จะช่วยให้เส้นผมของเราไม่แตกและจัดทรงของแสกผมได้ง่ายขึ้นเมื่อกลับมาแสกใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้นก็เป่าผมให้แห้งโดยเป่าผมจากด้านบนไปยังด้านล่างของรอยแสกที่เรากำหนดไว้จนผมแห้ง เพื่อช่วยกำหนดเส้นแบ่งได้ชัดเจนขึ้นและแสกผมได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ
4. ใช้หวีแบ่งเส้นผมกลับไปยังรอยแสกใหม่ที่วางไว้
หลังจากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการหวีผมกลับไปยังรอยแสกเดิมที่เราวางเอาไว้ ถ้าผมใครยังไม่ค่อยอยู่ตัวสักเท่าไหร่ ก็แนะนำว่าให้ลองหวีซ้ำๆ จนเรียบหรือใช้ไดร์เป่าผมดึงช่วยนิดหน่อย เพื่อให้การเปลี่ยนแสกผมของเราเป็นไปได้อย่างเรียบเนียนยิ่งขึ้น ซึ่งสำหรับใครที่ผมเซตตัวแล้วก็สามารถจบด้วยวิธีนี้ได้เลยค่ะ แต่ถ้าผมยังไม่ค่อยไปสักเท่าไหร่ ก็ตามไปดูขั้นตอนสุดท้ายในการเซตผมให้อยู่ทรงกันเลย
5. ใช้น้ำผมหรือเจลใส่ผมเพื่อเซตให้อยู่ตัว
วิธีนี้เป็นการเพิ่มการจัดทรงให้ผมของเราเปลี่ยนแสกได้เป๊ะขึ้น ด้วยการใส่น้ำมันหรือเจลใส่ผมโดยลูบบริเวณเส้นผมข้างที่แสก แต่หากใครไม่อยากใส่น้ำมันหรือเจลก็อาจจะใช้แค่การหนีบหรือไดร์ผมก็สามารถทำได้เช่นกัน เพื่อให้เส้นผมเรียบเนียนและอยู่ทรงมากขึ้นก็ได้เช่นกันค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ 5 วิธีเปลี่ยนแสกผมแบบง่ายๆ ที่นำมาฝากกันในวันนี้สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีเปลี่ยนแสกผมอยู่ก็อย่าลืมนำเคล็ดลับที่เรานำมาฝากไปลองทำตามกันดูนะคะ รับรองว่าแสกผมได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน และสำหรับใครที่ยังไม่มีแพลนว่าจะเปลี่ยนแสกผมก็อย่าลืมลองเปลี่ยนแสกผมกันดูนะคะ นอกจากจะช่วยเปลี่ยนลุคแล้วยังช่วยป้องกันหนังศรีษะและสุขภาพผมได้อีกด้วย
นักเขียนอิสระที่ชอบอัปเดตเรื่องความงาม แฟชั่น อยู่เสมอ หลงรักเสียงดนตรี ชอบความสดใส โปรดปรานของน่ารัก เครื่องสำอาง, สกินแคร์ และอาหารมากเป็นพิเศษ