เชื่อว่าปัญหาเรื่องน้ำหนักก็ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดมาคู่กับมนุษย์ผู้รักการทานอย่างเราๆ กันอย่างแน่นอน แต่วันนี้เพื่อนๆ ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะเราจะมาแชร์ 15 สูตรอาหารไทย แคลอรีต่ำ ทานแล้วหุ่นสวย ให้เพื่อนๆ ไปลองทำตามกัน
แคลอรี่ที่ควรทานให้เหมาะสมใน 1 วัน
เชื่อว่าใครที่กำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ก็จะรู้เรื่องปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการใน 1 วันกันบ้างแล้ว แต่ว่าวันนี้พี่อะเครุเลยจะมาขอย้ำเพื่อนๆ กันอีกทีว่า เราควรทานแคลอรี่ปริมาณเท่าใดจึงจะเหมาะสมต่อ 1 วันค่ะ
- ผู้หญิง ควรทานอยู่ที่ 1,800 – 2,500 แคลอรี่ต่อวัน
- ผู้ชาย ควรทานอยู่ที่ 1,500 – 2,000 แคลอรี่ต่อวัน
15 สูตรอาหารไทย แคลอรี่ต่ำ
ก่อนที่จะไปดูเมนูต้องขอบอกเพื่อนๆ ก่อนว่า เมนูที่นำมาฝากกันในวันนี้ จริงอยู่ที่แคลอรี่อาจจะน้อยแต่เพื่อนๆ ก็ควรทานให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ พอดีด้วยนะคะ
1.แกงจืดผักกาดขาว เต้าหู้หมูสับ
เปิดเมนูแรกกับด้วย เมนูแกงจืด เมนูฮิตติดครัวไทยเพราะการวิธีการทำที่ค่อนข้างง่าย และอร่อยถูกใจทุกเพศทุกวัยจริงๆ ค่ะ เมนูนี้ 110 แคลอรี่เท่านั้น
ส่วนผสม:
- เนื้อหมูสับไม่ติดมัน 500 กรัม
- เต้าหู้ไข่ 1 ชิ้น
- ผักกาดขาว 1 หัวเล็ก
- แคร์รอตหั่นเต๋า 1/2 ลูก
- ขึ้นฉ่ายซอย 2 ต้น
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- พริกไทย 1/2 ช้อนชา
- กระเทียมทุบ 5 กลีบ
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
วิธีทำ:
- เตรียมเนื้อหมูด้วยการหมักด้วย เกลือ พริกไทย ทิ้งไว้ 10 นาที
- ต้มน้ำให้เดือด ใส่กระเทียมทุบ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว
- ปั้นหมูเป็นก้อนกลมๆ ใส่ลงในน้ำที่เดือด แล้วรอให้เนื้อหมูสุก
- ใส่แคร์รอต ผักกาดขาว และเต้าหู้ไข่ จากนั้นทิ้งไว้ให้น้ำแกงเดือดอีกครั้ง
- ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยขึ้นฉ่าย
2. ยำเส้นแก้ว
มาต่อกันที่เมนูยำรสชาติจัดจ้าน แต่ทานแล้วอร่อยไม่มีเบื่ออย่าแน่นอน ด้วยส่วนผสมและวัตถุแต่ละอย่างในเมนูนี้ที่บอกเลยว่า ทานได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก เมนูนี้เท่ากับ 120 แคลอรี่
ส่วนผสม:
- เส้นแก้ว 10 กรัม
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลกรวด 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- อกไก่สับ 100 กรัม
- กระหล่ำปลี 50 กรัม
- แคร์รอต 20 กรัม
- เห็ดบีช 20 กรัม
- หมูยอเห็ดหอม 20 กรัม
- พริกชี้ฟ้าแดงตำ 4 เม็ด
- น้ำมะนาว 3 ช้อนชา
- หอมหัวใหญ่ 20 กรัม
- มะเขือเทศ 2 ลูก
- ขึ้นฉ่าย 1 ต้น
วิธีทำ:
- เตรียมน้ำยำโดยน้ำเปล่าไปต้มให้เดือดจากนั้นใส่ น้ำตาลกรวด เกลือ แล้วเคี่ยวให้น้ำตาลละลาย เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยพักทิ้งไว้
- นำอกไก่สับไปคั่วกับน้ำเปล่าเล็กน้อยให้สุกแล้วตักพักไว้
- ต้มน้ำให้เดือดอีกครั้งใส่เส้นแก้วลงไปลวก จากนั้นนำกระหล่ำปลี แคร์รอต เห็ดบีช หมูยอเห็ดหอม ไปลวกตามให้สุกพักไว้
- นำพริกที่ตำแล้วใส่ชามคลุก เติมน้ำมะนาว และใส่น้ำยำที่เตรียมไว้ 4 ช้อนโต๊ะ ใส่หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ และอกไก่ที่สุกแล้วลงไปคลุกให้เข้ากัน
- จากนั้นใส่เส้นแก้ว และผักที่ลวกไว้ ตามด้วยหมูยอเห็ดหอม คลุกให้เข้ากันอีกทีจากนั้นโรยหน้าด้วยขึ้นฉ่าย
3. น้ำพริกกะปิ
เป็นอีกเมนูที่มีเพียงแค่ 55 แคลอรี่ เรียกว่าน้อยมากๆ เลยแต่เห็นแคลอรี่น้อยแบบนี้ก็อย่าดีใจจนทานกับข้าวในปริมาณเยอะนะคะ แนะนำให้ทานกับข้าวไรซ์เบอร์รีที่มีแคลอรี่น้อยกว่าข้าวหอมมะลิดีกว่าค่ะ
ส่วนผสม:
- พริกขี้หนู ตามความชอบ
- กระเทียมไทย 10 กลีบ
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- มะเขือพวง
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักเครื่องเคียงตามใจชอบ
- ปลาทูทอด
วิธีทำ:
- ทอดปลาทูให้สุกเหลืองกรอบ
- ตำน้ำพริกด้วย พริกขี้หนู กระเทียม กะปิ น้ำตาลปี๊บ ให้เข้ากัน
- จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมะนาว คลุกให้เข้ากัน เติมมะเขือพวงลงไปโขลกเบาๆ เป็นอักเสร็จ เสิร์ฟพร้อมผักปลาทูทอดและผักเคียง
4. ส้มตำปูไทย
อีกหนึ่งเมนูยอดฮิตของคนไทยที่เรียกว่าถูกปากถูกใจทุกเพศทุกวัยกันอย่างแน่นอน และที่สำคัญเมนูนี้มีแค่ 200 แคลอรี่เท่านั้นเองค่ะ
ส่วนผสม:
- มะละกอสับ 200 กรัม
- มะเขือเทศ 2 ลูก
- มะนาว 1 ลูก
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกแห้ง ตามใจชอบ
- กระเทียม 3 กลีบ
- ปูไทยดอง 2 ตัว
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วลิสงคั่ว 10 กรัม
วิธีทำ:
- ตำพริกแห้งกับกระเทียมให้ละเอียด จากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บ มะนาว น้ำปลา ตำให้เข้ากัน
- ใส่ปู ถั่วลิสง มะเขือเทศ ตำให้ทุกอย่างเข้ากันดี
- ใส่เส้นมะละกอลงไป และคลุกทุกอย่างให้เข้ากัน
5. ยำอกไก่
มากันอีกหนึ่งเมนูยำที่บอกเลยว่า สายออกกำลังกาย สายอยากมีกล้ามต้องห้ามพลาด เพราะนอกจะจะไม่อ้วนแล้ว ยังมีโปรตีนที่ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้ออีกด้วย เมนูนี้ 120 แคลอรี่
ส่วนผสม:
- อกไก่ลอกหนัง 2 ชิ้น
- กะหล่ำปลี 1/4 หัว
- ขึ้นฉ่าย 2 ต้น
- แคร์รอต 1/2 ลูก
- มะเขือเทศ 4 ลูก
- พริก 5 เม็ด
- กระเทียม 3 กลีบ
- มะนาว 1/2 ลูก
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลมะพร้าว 1/2 ก้อน
- น้ำต้มสุก 1 ถ้วย
วิธีทำ:
- นำอกไก่ไปต้มให้สุก แล้วนำมาฉีกให้เป็นเส้นเล็กๆ
- เตรียมน้ำยำด้วยพริก กระเทียมตำ แล้วใส่น้ำมะนาว น้ำตาล น้ำปลา แล้วคนทุกอย่างให้เข้ากัน หากน้ำแห้งให้เติมน้ำต้มสุกเล็กน้อย
- ใส่กะหล่ำปลี แคร์รอต มะเขือเทศ ซอยเตรียมไว้ จากนั้นใส่เนื้ออกไก่ฉีกแล้วคนทุกอย่างให้เข้ากัน
6. ต้มเลือดหมู
เป็นอีกหนึ่งเมนูที่สามารถหาทานได้ง่าย และมีพลังงานเพียงแค่ 120 แคลอรี่ แต่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย แนะนำให้ทานกับข้าวไรซ์เบอร์รีเพื่อเพิ่มความอยู่ท้อง
ส่วนผสม:
- กระดูกสันหลังหมู 500 กรัม
- ตำลึง 1 กำมือ (เด็ดเอาเฉพาะใบ)
- ผักกาดหอม 3 ใบ
- ตับหมู 50 กรัม (หั่นชิ้นบาง)
- เลือดหมู 1 ก้อน (หั่นชิ้นพอคำ)
- เซี่ยงจี้ 50 กรัม (หั่นชิ้นบาง)
- หมูสับ 100 กรัม (หมักด้วยพริกไทย,น้ำมันหอย ,น้ำตาล ,ซีอิ๊วขาว)
- ไส้อ่อน 50 กรัม (หั่นท่อน 1 นิ้ว)
- เนื้อหมูสันใน 50 กรัม (หั่นชิ้นบาง)
- พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสถั่วเหลือง 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีซอย
- ต้นหอมซอย
- น้ำเปล่า 700 กรัม
วิธีทำ:
- ต้มน้ำให้เดือด ใส่กระดูกหมู
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา ซอสถั่วเหลือง และพริกไทยป่น
- ปิดฝาต้มให้เดือด 30 นาที จากนั้นตักกระดูกหมูออกพักไว้
- ปั้นหมูสับเป็นก้อนกลมๆ ใส่ลงในน้ำซุป รอให้หมูสุก
- จากนั้นใส่ตับหมู เนื้อหมู ไส้อ่อน เซี่ยงจี้ เลือดหมู และทิ้งไว้น้ำให้เดือดอีกครั้ง
- ใส่ใบตำลึงและผักกาดหอมในชามที่จะใช้เสิร์ฟ
- จากนั้นตักน้ำซุปและเครื่องที่ต้มไว้แล้วลงไปโรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชี และกระเทียมเจียว
7. แกงไตปลา
เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารประจำภาคใต้ มีรสชาติที่จัดจ้าน และนำแกงที่เหลืองอร่อยน่าทาน ทานได้กับทั้งข้าวและขนมจีนเลยทีเดียว และที่สำคัญมีพลังงานเพียงแค่ 50 แคลอรี่ / 1 ถ้วย
ส่วนผสม:
- ไตปลาทู 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า 3-4 ถ้วย
- ข่า 3 แว่น
- ตะไคร้ 2 ต้น
- ใบมะกรูด 4-5 ใบ
- เครื่องแกงเผ็ดใต้
- ปลาทูนึ่ง 2 ตัว
- ถั่วฝักยาว
- หน่อไม้
- ฟักทอง
- มะเขือเปราะ
- น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ เล็กน้อย
วิธีทำ:
- ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดและไตปลา ลงไปต้ม
- จากนั้นคนจนไตปลาละลาย แล้วปิดไฟแล้วกรองเอาน้ำออก พักไว้ให้เย็น
- นำน้ำไตปลาที่กรองแล้ว มาตั้งไฟให้เดือด ใส่เครื่องแกง กะปิ ฟักทอง หน่อไม้ มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว แล้วรอให้ผักสุกสักนิด
- จากนั้นใส่เนื้อปลาทูที่แกะเอาเฉพาะเนื้อลงไป ใส่น้ำมะขามเปียก ปรุงรสตามใจชอบและต้มรอให้ส่วนผสมกับน้ำแกงเข้าที่ก็เป็นอันพร้อมเสิร์ฟ
8. ยำมะเขือยาว
มาต่อกันที่อีกหนึ่งเมนูเอาใจสายยำ กับยำมะเขือยาวที่เรียกว่า เป็นอีกเมนูที่คนนิยมเลือกทานเวลาต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะในปริมาณ 1 จานให้พลังงานเพียงแค่ 167 แคลอรี่
ส่วนผสม:
- มะเขือยาว 1 ลูก
- หมูบด 50 กรัม
- พริกแดงซอย
- หอมแดงซอย
- ผักชี
- ไข่ต้ม 1 ฟอง
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 1 ช้อนชา
วิธีทำ:
- หั่นมะเขือยาวเป็นท่อนๆ ยาวขนาด 5 นิ้ว แล้วนำไปย่างบนกระทะให้สุกนุ่ม
- จากนั้นนำมะเขือยาวไปน็อคน้ำเย็นแล้วลอกเปลือกออก
- เอาหมูสับไปต้มให้สุก
- ทำน้ำยำด้วย น้ำมะนาว น้ำตาล น้ำปลา พริกแดง หอมแดง และหมูสับ คนทุกอย่างให้เข้ากัน
- นำมะเขือมาจัดใส่จาน ราดด้วยน้ำยำ และเสิร์ฟพร้อมกับไข่ต้มเป็นอันเสร็จ
9. แกงเลียงใบตำลึงกุ้งสด
เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากผักนานาชนิด เรียกได้ว่าทานแกงถ้วยเดียวก็ได้รับสารอาหารที่ครบครันกันด้วยพลังงานเพียงแค่ 104 แคลอรี่เท่านั้น
ส่วนผสม:
- ฟักทอง 100-120 กรัม
- ใบตำลึง 50 กรัม
- บวบเหลี่ยม 60 กรัม
- ใบแมงลัก 30 กรัม
- ข้าวโพดอ่อน 50 กรัม
- กุ้งสด 6 ตัว
- น้ำซุป 2 ถ้วยตวง
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดง 5 หัว
- เม็ดพริกไทย 15 เม็ด
- พริกขี้หนูสวน 2 เม็ด
- กะปิ 1/2 ช้อนชา
- กุ้งต้มสุก 4 ตัว
วิธีทำ:
- ตำส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียงให้ละเอียดด้วย หอมแดง พริกไทยเม็ด พริกขี้หนูสวน กะปิ กุ้งต้มสุก
- ต้มน้ำซุปให้เดือด ใส่น้ำพริกแกงเลียงลงไปแล้วคนให้ละลาย
- ใส่ฟักทองต้มสุก แล้วใส่บวบ ข้าวโพดอ่อน และกุ้งสด รอให้ทุกอย่างสุกเข้าที่
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่ใบตำลึง ใบแมงลัก ทิ้งไว้สักพักให้แกงเดือดแล้วตักเสิร์ฟ
10. ต้มยำกุ้งน้ำใส
ถือว่าเป็นเมนูยอดฮิตของคนไทยกันเลยทีเดียวนะคะ กับเมนูต้มยำกุ้งที่ถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเลย และที่สำคัญสูตรนี้ให้พลังงานเพียงแค่ 66 แคลอรี่อีกด้วย
ส่วนผสม:
- กุ้งสด 250 กรัม
- น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
- เห็ด 300 กรัม
- พริกขี้หนู 1 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว 1 ลูก
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ผักชีซอย 2 ต้น
- ข่า 1/2 หัว
- ตะไคร้ 2 ต้น
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- กระเทียม 5 กลีบ
- หอมแดง 3 หัว
วิธีทำ:
- ต้มน้ำให้เดือดจากนั้นใส่ หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ แล้วรอให้น้ำเดือดอีกครั้ง
- ใส่เห็ด และรอให้น้ำเดือดอีกครั้ง
- ใส่ใบมะกรูดฉีก และกุ้งสดตามลงไป
- ปรุงรสด้วย เกลือป่น น้ำปลา และรอให้น้ำเดือดระหว่างนี้ให้ตักฟองที่ลอยขึ้นมาทิ้งไป
- พอกุ้งสุกให้ปิดไฟ แล้วใส่พริก มะนาว และปิดทายด้วยผักชีซอย
11. ผัดกะเพรา
มาถึงอีกหนึ่งเมนูที่อยู่คู่ครัวคนไทยมาอย่างยาวนาน และถือเป็นอาหารสตรีทฟู้ดที่โด่งดังของอีกด้วย โดยเมนูนี้จะใช้เนื้ออกไก่แทนเพราะมีแคลอรีที่ค่อนข้างน้อย 440 แคลอรี่
ส่วนผสม:
- เนื้อสะโพกไก่ 500 กรัม
- กระเทียม 40 กรัม
- พริกแดงจินดา 30 กรัม
- พริกแห้ง 10 กรัม
- ใบกะเพรา 20 กรัม
- ซอสหอยนางรม 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
- นำพริกแห้งไปคั่วในไฟอ่อนให้หอม
- นำพริกแห้งคั่ว พริกจินดาแดง กระเทียมไปตำแบบหยาบๆ
- นำไปผัดในกระทะให้มีกลิ่นหอม ใส่อกไก่สับลงไปผัดให้สุก
- จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำตาล ซอสหอยนางรม น้ำปลา
- ใส่ใบกะเพราลงไปผัดให้หอม พร้อมเสิร์ฟ
12. แกงเห็ด
อีกหนึ่งแกงยอดฮิตสำหรับคนลดน้ำหนัก เพราะเห็ดถือเป็นพืชที่มีแคลอรีต่ำแต่ให้ความอิ่มอยู่ท้องที่นานสุดๆ โดยแกงเห็ด 1 ถ้วยให้พลังงานอยู่ที่ 90 แคลอรี่ สูตรนี้จะใส่น้ำปลาร้าเพื่อเพิ่มความนัวด้วยนะคะ
ส่วนผสม:
- เห็ด 1 จานใหญ่
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำปลาร้า 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 1/2 ช้อนชา
- น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริก&ตะไคร้ 1 ถ้วยเล็ก
- ใบแมงลัก 1 ถ้วย
วิธีทำ:
- ต้มน้ำให้เดือด ใส่พริกกับตะไคร้ตำแล้วลง
- ใส่เห็ดที่เตรียมไว้ลงไป รอให้น้ำเดือดสักพักเพื่อให้เห็ดสุก
- ใส่น้ำปลาร้าลงไป
- ปรุงรสด้วย น้ำปลา ผงปรุงรส เกลือป่น และรอให้น้ำเดือดอีกครั้ง
- ใส่ใบแมงลัก คนให้เข้ากันเป็นเสร็จ
13. แกงจืดมะระ
มาต่อกันอีกหนึ่งเมนูแกง ที่ทำตามได้ง่ายสุดๆ แถมยังทำทานแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องแคลอรี่อีกด้วยเพราะแกง 1 ถ้วยให้พลังงานแค่ 90 แคลอรี่
ส่วนผสม:
- มะระ 1,000 กรัม
- กระดูกอ่อนหมู 300 กรัม
- ผักกาดดองเปรี้ยว 50 กรัม
- กระเทียม 20 กรัม
- พริกไทย 1/2 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชี 10 กรัม
- เกลือ 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 3,000 ml.
วิธีทำ:
- นำมะระมาผ่าครึ่งแล้วขูดเอาเมล็ดในออกให้หมด แนะนำให้ขูดเอากากสีขาวออกมาด้วยเพื่อไม่ให้มะระขม และหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
- ตำพริกไทยเม็ด รากผักชี กระเทียม
- ต้มน้ำให้เดือด ใส่เครื่องแกงที่ตำไว้ ตามด้วยกระดูกอ่อน
- ใส่มะระ และผักกาดดองเปรี้ยวลงไปเพื่อตัดรสชม จากนั้นต้มให้ทุกอย่างสุกด้วยไฟอ่อน แต่ห้ามปิดฝาหม้อเด็ดขาด
- ปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และต้มต่อประมาณ 1 ชั่วโมงให้กระดูกอ่อนพร้อมเสิร์ฟ
14. ลาบเห็ดรวม
อีกหนึ่งเมนูจากภาคอีสานเอาใจสาวๆ สายแซ่บ ที่รักอาหารรสชาติจัดจ้าน และที่สำคัญคนที่ทานมังสวิรัติก็สามารถทานจานนี้ได้ค่ะ จานนี้ให้พลังงานอยู่ที่ 95 แคลอรี่
ส่วนผสม:
- เห็ดฟาง, เห็ดชิมิจิ, เห็ดหูหนู (ประมาณ 300 กรัม)
- หอมแดงซอย 3 หัว
- ต้นหอมซอย 2 ต้น
- ผักชี 2 ต้น
- ใบสะระแหน่ 7-8 ใบ
- ข้าวคั่ว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมาะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา
- พริกป่น (ตามชอบ)
วิธีทำ:
- นำเห็ดที่เตรียมไว้มาต้มให้สุกแล้วตักใส่ชามที่จะใช้คลุกส่วนผสม
- เติมข้าวคั่ว มะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกป่น คลุกทุกอย่างให้เข้ากันชิมรสชาติที่ต้องการ
- ใส่ต้นหอม ผักชี และหอมแดงซอย ใบสะระแหน่ จากนั้นคลุกทุกอย่างให้เข้ากันอีกทีเป็นอันเสร็จ
15. เมี่ยงปลาทู
ปิดท้ายกันที่เมนูเมี่ยงปลาทู ที่บอกเลยว่าอร่อยถูกใจสุดๆ ทานปลาทูกรอบๆ กับผัดสดๆ ราดด้วยน้ำจิ้มถั่วตัดคือให้ 10 คะแนนเต็มเลยค่ะ แต่ขอบอกก่อนว่าเมนูนี้อาจจะมีพลังงานเยอะกว่าเมนูอื่นสักหน่อย โดยอยู่ที่ 240 แคลอรี่
ส่วนผสม:
น้ำจิ้มถั่วตัด
- พริกขี้หนูสวนเขียวแดง 40 กรัม
- กระเทียมไทยปอกเปลือก 100 กรัม
- รากผักชี 4 ราก
- กระเทียมดอง 2 หัว
- น้ำมะนาว 150 กรัม
- น้ำปลา 80 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 50 กรัม
- เกลือป่น 1 ชช.
- ถัวตัด 180 กรัม
เครื่องเคียงเมี่ยงปลาทู
- ปลาทูทอด
- ถั่วลิสงคั่ว
- มะนาวหั่นเต๋า
- ขิงอ่อนหั่นเต๋า
- พริกขี้หนูซอย
- หอมแดงหั่นเต๋า
- กระเทียมจีนซอย
- ขนมจีน
- ผักกาดหอม,ผักชี,ใบชะพลู
วิธีทำ:
- ทอดปลาทูให้เหลืองกรอบน่ารักประทาน
- ทำน้ำจิ้มด้วยการตำหรือปั่น พริก กระเทียม รากผักชี กระเทียมดองให้เข้ากันใส่ถั่วตัด น้ำตาลปี๊บ
- ปรุงรสน้ำจิ้มด้วย น้ำปลา น้ำมะนาว เกลือ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟพร้อมปลาทูทอดและเครื่องเคียง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับทั้งหมดที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เรียกว่าแต่ละเมนูเห็นแล้วชวนน้ำลายไหลกันแบบสุดๆ ถ้าเพื่อนสนใจเมนูไหนก็ลองไปทำตามกันได้เลยนะ
ที่มาภาพ: walkerplus
สวัสดีค่ะ เราชื่อบีมนะคะ เราชื่นชอบในเรื่องของสกินแคร์และการดูแลตัวเอง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ