เทรนด์การทาลิปนี่มาแรงแซงท้างโค้งทุกปีเลยว่าไหมคะสาวๆ ทีเด็ดคือมีเนื้อลิปสติกแบบใหม่ มาให้ลองทากันอย่างสนุกตลอด และถ้าพูดถึงลิปที่มาแรงที่สุดในปีนี้ก็คงไม่พ้นลิปกลอส ทาแล้วได้ลุคปากฉ่ำวาว เป็นประกายระเรื่อ จะสายเกาหรือสายฝ. ก็เลิฟ แต่จะทายังไงให้สวยเป๊ะ ไม่เยิ้มจนเกินไป วันนี้พี่อะเครุมีทริคดีๆ มาฝาก พร้อมแล้ว..หยิบลิปกลอสขึ้นมาและทำตามได้เลย!
ทำความรู้จักลิปกลอสและลิปสติกเนื้อคล้ายลิปกลอส
ถ้าใครเป็นสายบิวตี้หรือเมคอัพจังกี้ก็คงจะคุ้นเคยกับลิปกลอสกันเป็นอย่างดี แต่ในปัจจุบันลิปสติกก็มีหลากหลายเท็กซ์เจอร์ที่ถูกผลิตขึ้นมาใหม่ตามเทรนด์ จึงมีบางโปรดักส์ที่มีเนื้อคล้ายกับลิปกลอสแต่มีความแตกต่าง วันนี้เรามาเจาะลึกกันดีกว่าว่ามีแบบไหนบ้าง
ลิปกลอส (Lip Gloss)
ลิปกลอส (Lip Gloss) คือลิปที่มีลักษณะเป็นเนื้อเจลข้มข้น มีให้เลือกทั้งแบบสีหรือแบบกลิตเตอร์ ที่สำคัญพิกเมนต์สีชัดเจน ส่วนใหญ่บรรจุอยู่ในหลอดมาพร้อมฝาปิดที่มีแปรงพร้อมทา เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ลุคปากอวบอิ่ม ฉ่ำวาว เมื่อทาแล้วจะรู้สึกหนักที่ริมฝีปากเล็กน้อย ลิปกลอสในปัจจุบันมีคุณสมบัติเป็น Lip Plumper ด้วย ทาแล้วจะรู้สึกร้อนเบาๆ ที่ปากแต่พอผ่านไปสักระยะริมฝีปากจะดูอวบอิ่มขึ้น สาวๆ คนไหนที่ริมฝีปากเล็กต้องลองแล้ววว
ลิปออยล์ (Lip Oil)
ลิปตัวนี้มีเท็กซ์เจอร์ที่คล้ายลิปกลอสมาก ลิปออยล์ (Lip Oil) คือลิปที่มีเนื้อสัมผัสมัน วาว แต่เนื้อจะไม่หนักเท่ากับลิปกลอส มีให้เลือกทั้งแบบสีและแบบกลิตเตอร์เช่นเคย พิกเมนต์ของสีจางกว่าลิปกลอสมาก ทาแล้วจะเป็นสีระเรื่อๆ ไม่เน้นกลบสีปากมิด ถ้าหากสาวๆ คนไหนที่ไปเวย์ลิปกลอสไม่ไหวแต่อยากได้ริมฝีปากที่วาว โดนแสงแล้วมีลูกเล่น ลิปออยล์ก็ถือว่าเป็นช้อยส์ที่น่าสนใจสุดๆ
ลิปทินท์เนื้อน้ำ (Lip Water Glass)
ตัวสุดท้ายเป็นเนื้อลิปน้องใหม่ในวงการบิวตี้ เพิ่งบูมประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว ลิปทินท์เนื้อน้ำ (Lip Water Glass) ลิปประเภทนี้ถือเป็นลิปที่ให้ความฉ่ำแต่เนื้อบางเบาที่สุดเมื่อเทียบกับลิปกลอสและลิปออยล์ ทาแล้วจะรู้สึกเบาเหมือนกับน้ำ ให้เนื้อสัมผัสที่ลื่นๆ ไม่หนึบหรือเหนียว มีสีที่เข้มกว่าลิปออยล์ พิกเมนต์สีค่อนข้างชัดเจน มีความวาวกำลังพอดี ข้อดีคือเวลาดื่มน้ำหรือรับประทานอาหาร สีของทินท์จะยังติดทนอยู่ เป็นที่มาของอีกชื่อเรียกว่า Lip Stain จึงเหมาะมากๆ สำหรับทาเป็น Everyday look
ทาลิปกลอสยังไงให้รอด! ไม่เหนียวเยิ้มเกินไป
เตรียมริมฝีปากให้เนียนนุ่ม
ก่อนที่เราจะทาลิปสติก ลิปกลอส หรือลิปอะไรก็ตาม การบำรุงริมฝีปากให้พร้อมก่อนถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะว่าถ้าเรามีริมฝีปากที่ชุ่มชื่น ไม่แห้งแตก จะทำให้การทาลิปนั้นสนุกยิ่งขึ้น! การทาลิปกลอสก็เช่นกัน พี่อะเครุแนะนำว่าให้สครับริมฝีปากที่แห้งแตกออกให้หมดตอนก่อนแต่งหน้า หลังจากนั้นทาลิปเซรั่มเพื่อเป็นการรองพื้น และค่อยทาลิปกลอสตาม ถ้าไม่สครับริมฝีปาก เราจะมีปากที่แห้งแตก พอทาลิปกลอสลงไปจะทำให้เห็นหนังริมฝีปากที่แห้งและจะได้ลุคที่ไม่สวยเลยยย
เขียนขอบปากด้วยลิปไลเนอร์
ขั้นตอนนี้ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน การเขียนขอบปากด้วยลิปไลเนอร์ก่อนเปรียบเสมือนกับการตีกรอบบางๆ ให้ริมฝีปากของเรา เมื่อเวลาเราทาลิปกลอสแล้วจะทำให้ไม่เลอะเทอะจนเกินไป อีกอย่างยังเป็นการช่วยให้ริมฝีปากของเรามีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เนื่องจากเหมือนเป็นการเล่นแสงและเงากับธรรมชาติ สาวๆ ที่ริมฝีปากเล็ก ดูไม่มีเสน่ห์ วิธีนี้เป็นทางออกที่เวิร์คมากๆ
ทาลิปกลอสเพียงเลเยอร์เดียว
ขั้นตอนสุดท้ายเพื่อเนรมิตให้ปากสวยฉ่ำวาว ทริคการทาลิปกลอสให้สวยไม่เยิ้มเลอะเทอะ ก็คือการทาเพียงเลเยอร์เดียว เมื่อเปิดลิปกลอสออกมาให้เราทาที่ริมฝีปากทั้งบนและล่างได้เลยโดยไม่ต้องเม้มปากเหมือนกับตอนทาลิปแมตต์ เพราะว่าจะทำให้พิกเมนต์สีของกลอสเคลื่อนตัวและสีไม่เท่ากัน ทาเสร็จแล้วเก็บได้เลย ไม่ต้องจุ่มและทาต่อ เพราะการทาซ้ำๆ จะเยิ้มเกินและไม่สวย แถมยังไม่สบายปากอีกด้วย
การแต่งหน้าที่ดูเหมือนง่าย แต่จริงๆ แล้วก็แอบมีทริคเล็กน้อยที่ทำให้ลุคโดยรวมนั้นดูละเอียด สวย และมีความแตกต่าง การทาลิปกลอสก็เช่นกัน ถ้าทุกคนนำเอาทริคในครั้งนี้ไปปรับใช้ พี่อะเครุว่ายังไงก็รอด! คนที่เป็นมือใหม่ไม่เคยทาลิปกลอสมาก่อนก็ปังได้ ครั้งนี้ต้องลอง
Tripple B because it's unique. Enjoy watching sunset, dive into the world of art and let my soul sink into music.