ช่วงปลาย ๆ ปีนี้ถือเป็นยุคทองแห่งบลัชออนสีแดงกุหลาบแห้งเลยล่ะค่ะ เพราะเป็นหนึ่งในสียอดฮิตในคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวที่เรียกได้ว่าทำเอาสาว ๆ กรี๊ดกร๊าดกันมาก ๆ เพราะเป็นโทนสีที่ปัดได้เข้ากับทุก ๆ สีผิว อีกทั้งยังช่วยให้ผิวดูมีเลือดฝาดอย่างเป็นธรรมชาติมาก ๆ อีกด้วย
weheartit
และในวันนี้ พี่อะเครุได้รวบรวมบลัชออนสีแดงกุหลาบแห้งสวย ๆ มาฝากสาว ๆ กัน โดยแบรนด์เครื่องสำอางส่วนใหญ่ที่พี่อะเครุได้รวบรวมมานี้จะเป็นแบรนด์เครื่องสำอางราคาเบา ๆ หาซื้อได้ง่าย รับรองว่าถูกใจสาว ๆ อย่างแน่นอนค่ะ
เรามาดูกันดีกว่า ว่ามีแบรนด์ไหนบ้างที่ผ่านการคัดเลือกจากพี่อะเครุ อิอิ
1. Canmake – Glow Fleur Cheeks สี 09 Burgundy flowers ราคา 459 บาท
canmake
หากสาว ๆ กำลังมองหาบลัชออนสีโทนแดงก่ำ ๆ ชมพู ออกแนวกุหลาบกำลังจะแห้ง ต้องบลัชออนจาก Canmake เลยค่ะ สาว ๆ คงจะรู้ดีกันอยู่แล้วว่าบลัชออนแบรนด์นี้เป็นบลัชออนที่มีคุณภาพดีมาก ๆ สีสวย และมีความติดทนยาวนาน อีกทั้งยังมีชิมเมอร์เม็ดละเอียดที่ช่วยสร้างประกายและเติมความเปล่งปลั่งให้กับพวงแก้มสวย ๆ ของสาว ๆ ปัดได้ง่าย แถมพกพาสะดวกแบบนี้ สาว ๆ ต้องลองแล้วล่ะค่ะ
2. 4U2 – Love Me More สี S1 You Love Me ราคา 179 บาท
บลัชออนรุ่นใหม่จาก 4U2 ที่เปิดตัวปุ๊บ กระแสก็มาแรงปั๊บ ด้วยสีสันที่มีมาให้สาว ๆ เลือกมากมาย อีกทั้งยังมีทั้งเนื้อแมตต์และเนื้อชิมเมอร์ให้สาว ๆ เลือกใช้ตามความชอบ สำหรับสี S1 นี้ เรียกได้ว่าเป็นโทนสีที่สวย ให้ความนัวละมุนตุ้นเมื่อปัดลงบนพวงแก้ม สาว ๆ สามารถปัดเบา ๆ เพื่อให้ได้ลุคฤดูหนาวที่พวงแก้มดูมีเลือดฝาด ดูสวยมาก ๆ เลยค่ะ
3. Essence – Silky Touch Blush สี 70 Kissable ราคา 125 บาท
บลัชออนจากเครื่องสำอางสัญชาติเยอรมัน ราคาถูก เนื้อสัมผัสนุ่มลื่น สีนี้อาจจะหายากสักหน่อย แต่รับรองว่าปัดนิดเดียวก็สวยมาก ๆ โดยเฉพาะสาว ๆ ผิวขาว ยิ่งปัด ยิ่งดูมีเลือดฝาด ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติมาก ๆ มีส่วนผสมของชิมเมอร์เล็ก ๆ เบา ๆ ช่วยให้พวงแก้มดูมีมิติอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม สาวผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ค่ะ
4. Wet N Wild – Blusher สี Berry Shimmer ราคา 200-300 บาท
wetnwildbeauty
อีกหนึ่งบลัชออนถูกและดีที่หาซื้อได้ง่ายตามดรักสโตร์บ้านเรา เค้ามีบลัชออนให้เลือกลากหลายโทนสีมาก ๆ และรุ่นนี้สีนี้ ขอบอกเลยว่าเป็นบลัชออนที่สีสวยมาก เพราะเม็ดสีแน่น ชัด แถมยังติดทนนาน ให้พวงแก้มดูสวย มีมิติ ปัดช่วงโหนกแก้มไปจนถึงไรผม นอกจากจะทำให้ใบหน้าดูมีเลือดฝาดแล้ว ยังทำให้ใบหน้ามีโครงเรียวเล็กกว่าเดิมอีกด้วยค่ะ
ทีนี้สาว ๆ ก็ได้ทำความรู้จักกับบลัชออนโทนสีแดงกลีบกุหลาบแห้ง ๆ กันไปแล้ว แต่สาว ๆ หลายคนก็ยังกลัวการปัดบลัชออนสีแดงอยู่ อาจจะเพราะว่าสีที่ดูแรงจนเกินไป หรือกลัวว่าปัดแล้วจะดูโป๊ะ ดูพัง ดูไม่สวยปังเปรี้ยง วันนี้พี่อะเครุก็มีเคล็ดลับในการปัดบลัชออนสีแดงมาฝากสาว ๆ กันด้วยจ้า
เคล็ดลับการปัดบลัชออนสีแดง
เคล็ดลับที่ 1 : แต้มเบา ๆ ลงบนบลัชออน และเคาะสีอออกก่อน
สำหรับบลัชออนสีแดงนั้น พวกเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นสีที่ค่อนข้างอันตรายในการนำมาปัดพวงแก้ม แต่หากปัดแล้วไม่พลาดจะกลายเป็นสีที่สวยและดูมีเสน่ห์มาก ๆ วิธีการในการปัดบลัชออนโทนสีแดงให้ไม่พังคือการแตะแปรงลงบนบลัชออนเบา ๆ แล้วเคาะสีส่วนเกินออก ปัดลงบนพวงแก้มทีละเล็กทีละน้อย หากสีที่ได้ยังไม่เข้มชัดจนเป็นที่น่าพอใจ พี่อะเครุแนะนำให้สาว ๆ ค่อย ๆ ปัดย้ำดีกว่าปัดไปปื้ดเดียวแล้วพังค่ะ เพราะการมาแก้เมคอัพที่เราแต่งพังไปนั้นมันยากกว่าเยอะนะ
เคล็ดลับที่ 2 : ปัดเน้นช่วงโหนกแก้ม
สำหรับบลัชออนโทนสีแรง ๆ นั้น การนำมาปัดหน้าแก้มอาจจะดูไม่งามเท่าไหร่นัก แต่สาว ๆ สามารถเลือกปัดที่ช่วงโหนกแก้ม ไล้ไปให้ถึงบริเวณขมับและไรผม วิธีนี้จะช่วยให้พวงแก้มดูสวยมีมิติ ดูมีเสน่ห์ และยังช่วยให้ใบหน้าดูเรียว วีเชฟมากยิ่งขึ้นค่ะ
เคล็ดลับที่ 3 : ปัดบาง ๆ ช่วงหน้าแก้มและสันจมูก
หากสาว ๆ อยากได้ลุคหน้าหนาวจัดเต็ม ให้แตะบลัชออนโทนสีแดงเบา ๆ นำมาปัดช่วงหน้าแก้ม และลากผ่านสันจมูกตรงกลางในแนวนอน รับรองว่าลุคนี้จะช่วยเนรมิตลุคการแต่งหน้าให้ดูมีเลือดฝาด เหมาะมาก ๆ ในการแต่งในช่วงหน้าหนาวค่ะ
weheartit
การปัดบลัชออนโทนสีแดงจะไม่ยากและไม่พังอีกต่อไป หากสาว ๆ ค่อย ๆ ทาทีละน้อย ๆ และไม่ปัดให้แดงจนเกินไปนะคะ แถมสีแดงเนี่ย ยังเป็นสีธรรมชาติที่เข้ากับผิวสาว ๆ ได้เป็นอย่างดี สาว ๆ คนไหนยังไม่เคยลองปัดแก้มด้วยโทนสีนี้ ต้องรีบลองแล้วจะติดใจ!
Content Editor, Digital Marketer, ครูสอนภาษาไทย และช่างทำสบู่มือสมัครเล่น ชื่นชอบการอ่านและเขียนเป็นชีวิตจิตใจ อินกับมินิมอลไลฟ์สไตล์ และชอบต้นไม้แบบสุด ๆ