สาวๆ หลายคนอาจจะงงว่าน้ำหอมแต่ละประเภทที่เขาเรียกๆ กันนั้นแตกต่างกันอย่างไร ใช่ที่แพ็กเกจหรือกลุ่มเป้าหมายของน้ำหอมหรือเปล่านะ วันนี้เราเลยจะมาบอกว่า น้ำหอมมีทั้งหมดกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร และในบรรดาน้ำหอมเป็นร้อยเป็นพันกลิ่นเนี่ย จะสามารถจำแนกกลิ่นได้อีกกี่ประเภทกันแน่ ไปเริ่มกันเลยค่ะ!
น้ำหอมคืออะไร ?
น้ำหอม ก็คือสารละลายหอมระเหยที่ทำจากน้ำมันกับแอลกอฮอล์ มีกลิ่นที่สกัดมาจากดอกไม้ในธรรมชาติหรือกลิ่นที่สังเคราะห์ขึ้นมาผสมอยู่
Eau de เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “น้ำ (Water)” เวลาเอามาเขียนรวมกับพวกหัวน้ำหอมในระดับความเข้มข้นต่างๆ ก็จะหมายถึง มีการเจือน้ำเข้าไป ซึ่งความคงทนของกลิ่นก็จะไม่อยู่นานเท่า Pure Perfume
champagneculture
ประเภทของน้ำหอม
ประเภทของน้ำหอมเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อน เพราะชื่อเรียกประเภทของน้ำหอมนั้นขึ้นอยู่กับสัดส่วนความเข้มข้นของน้ำมันหอมต่อแอลกอฮอล์และน้ำนั่นเอง ซึ่งในที่นี่จะแบ่งน้ำหอม ออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
makeupandbeautytips
1. Eau Fraiche
น้ำหอมเป็นเภทที่เจือจางที่สุด มีส่วนผสมของนํ้ามันหอม 1 – 3% ต่อแอลกอฮอล์และน้ำ ปกติแล้วจะติดทนแค่ไม่เกิน 1 ชั่วโมงเท่านั้น
2. Cologne (Eau de Cologne: EDC)
น้ำหอมประเภทที่เก่าแก่ที่สุดตั้งแต่สมัยนโปเลียน เป็นที่นิยมของผู้ชายในอเมริกาเหนือ กลิ่นบางเบา สดชื่น หอมหวานคล้ายผลไม้ โดยปกติจะมีส่วนผสมของนํ้ามันหอม 2% – 4% ต่อแอลกอฮอล์และน้ำ เป็นที่นิยมของคนวัยหนุ่มสาว ติดทนประมาณ 2 ชั่วโมง และด้วยเพราะกลิ่นที่ติดไม่ทนจึงสามารถฉีดเพิ่มที่ผิวโดยตรงได้บ่อยๆ ตามต้องการเลยล่ะค่ะ
3. Toilette (Eau de Toilette: EDT)
สเปรย์น้ำหอมที่บางเบา มีส่วนผสมของหัวเชื่อน้ำหอมบริสุทธิ์ 5% – 15% ต่อแอลกอฮอล์ ติดทนประมาณ 3 ชั่วโมง นอกจากนี้น้ำหอมประเภท Eau de toilette และ cologne ยังเป็นน้ำหอมที่นิยมที่สุดในหมู่น้ำหอมที่วางขายในช่วงหน้าร้อนด้วยล่ะ!
4. Perfume (Eau de Parfum: EDP)
น้ำหอมประเภทที่นิยมใช้กันมากที่สุดทั้งเพศหญิงและชาย เพราะราคาที่ไม่แพงมากและติดทนพอสมควร มีส่วนผสมของหัวเชื่อน้ำหอมบริสุทธิ์ 15% – 20% ติดทนประมาณ 5-8 ชั่วโมง ควรใช้ฉีดที่จุดชีพจรของร่างกาย เช่น ข้อมือ หัวไหล่ และข้อพับตรงกลางแขน และสามารถฉีดที่ผมหรือบนเสื้อผ้าได้ แต่อย่าฉีดลงบนเสื้อผ้าที่เป็นผ้าไหมเชียวนะ เพราะอาจจะทำให้เกิดคราบได้ค่ะ
5. Perfume (Pure Perfume)
น้ำหอมประเภทที่มีความเข้มข้นและแพงมากที่สุดจากน้ำหอมทุกประเภทที่กล่าวมา มีส่วนผสมของหัวเชื่อน้ำหอมบริสุทธิ์ 20% – 30% การทาน้ำหอมชนิดนี้ในปริมาณเล็กน้อยเพียง 1 ครั้ง ก็สามารถคิดทนถึง 24 ชั่วโมงได้เลยล่ะค่ะ สำหรับน้ำหอมประเภทนี้ควรใช้แตะตามจุดชีพจรของร่างกายโดยตรง เช่น ข้อมือ หลังหู และคอ
andreajanke
ประเภทกลิ่นของน้ำหอม
สามารถจำแนกกลิ่นของน้ำหอมออกเป็น 8 กลิ่น ดังนี้
1. Floral
swoonedmagazine
น้ำหอมกลิ่น Floral ครอบคลุมถึงน้ำหอมทุกประเภทที่มีส่วนผสมของพืชจำพวกดอกไม้ เช่น ดอกกุหลาบ ดอกมะลิ ดอกส้ม ดอกไม้สกุลพุด และดอกคาเนชั่น น้ำหอมกลิ่น Floral จะทำให้รู้สึกถึงความมีเสนห์ โรแมนติก เบิกบาน และหอมหวานไปพร้อมๆ กัน ราวกับจูบแรกที่แสนไร้เดียงสาและโรแมนติก
อาจจะใช้กลิ่นของดอกไม้เพียง 1 ประเภท หรือผสมกลิ่นของดอกไม้หลายๆ ประเภทเข้าด้วยกัน นอกจากนี้กลิ่น Floral ยังเป็นกลิ่นที่เหมาะกับผู้หญิงเพราะเป็นกลิ่นหอมที่ธรรมชาติ และกลิ่นนี้มักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของผู้หญิงที่ต้องการเลือกซื้อน้ำหอมเลยล่ะค่ะ
2. Citrus
น้ำหอมกลิ่น Citrus จะมีส่วนผสมจากพืชตระกูลส้มที่ให้ความรู้สึกสดชื่น หวานซ่อนเปรี้ยว ว่ากันว่ากลิ่น Citrus เป็นกลิ่นที่เหมาะกับคนที่มีบุคลิกสดใส กระฉับกระเฉง และมีชีวิตชีวา ตัวอย่างของส่วนผสมจากพืชตระกูลส้ม ได้แก่ มะนาว, เลมอน, ส้มเขียวหวาน, ส้มแมนดาริน และมะกรูด
น้ำหอมกลิ่นนี้จะให้ความรู้สึกสดชื่น ราวกับว่ากำลังปั่นจักรยานโดยไม่จับแฮนด์ ตอนพระอาทิตย์ตกในหน้าร้อนเลยน้า ซึ่งเหมาะกับการใช้ในช่วงเวลากลางวันมากๆ ส่วนมากน้ำหอมกลิ่น Citrus จะเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนเกินไป จึงสามารถหยิบมาใช้ได้บ่อยๆ ด้วยนะสาวๆ
3. Woody
น้ำหอมกลิ่น Woody หรือ ไซปรัส (Chypre) ส่วนผสมหลักของน้ำหอมกลิ่นนี้คือ เนื้อไม้และพืชจำพวกมอส ส่วนมากจะนิยมใช้ Oak Moss (เป็น Lichen ที่อยู่ตาม ต้นโอ๊ก ต้นสน และต้นไม้อื่นๆ), พืชตระกูลส้ม (citrus), ลูกสนเขียวสดๆ และพิมเสน จะเป็นกลิ่นหอมของดินและให้ความรู้สึกผ่อนคลาย คล้ายสายลมในป่าหลังฝนตกหนัก น้ำหอมกลิ่นนี้จะเป็นกลิ่นที่เหมาะกับผู้หญิงที่ใจเด็ดและหนักแน่น
4. Oriental
cl-prod
น้ำหอมกลิ่น Oriental เป็นกลิ่นที่ผสมระหว่างกลิ่นแบบมัสค์ (musky fragrances)และ earthy fragrances เข้าด้วยกัน ทำให้ได้กลิ่นที่หวานอมขม ตัวอย่างส่วนผสม ได้แก่ amber, musk และ animalistic เป็นกลิ่นที่เหมาะกับการออกเดตในค่ำคืนที่โรแมนติกสุดๆ
5. Fruity
halfbakedharvest
กลิ่นหอมคล้ายผลไม้ให้ความรู้สึกเป็นมิตรและผ่อนคลาย เป็นกลิ่นที่เป็นที่นิยมมากๆ เพราะเป็นกลิ่นที่หอมหวาน คล้ายกับว่าคุณกำลังดื่มด่ำค็อกเทลรสโปรด เป็นการผสมผสานระหว่างกลิ่นผลไม้และกลิ่นที่เผ็ดร้อน (spicy) เหมาะกับการไปออกเดตในค่ำคืนที่โรแมนติก ไปปาร์ตี้ หรือไปท่องเที่ยวผจญภัย กลิ่น Fruity นี้รวมถึงกลิ่น แอปเปิล เบอร์รี่ มะม่วง พีช กีวี่ และกลิ่นผลไม้อื่นๆ ด้วยเช่นกัน
6. Green
สำหรับกลิ่น Green เป็นกลิ่นคล้ายใบไม้ สดชื่นๆ และหญ้าที่เพิ่งตัดใหม่ๆ เหมาะกับลุคสปอร์ตและทุกเพศสามารถใช้ได้ กลิ่นเบาสบาย ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใช้ในวันสบายๆ ที่ไม่เป็นทางการ
7. Oceanic
meggielynne
น้ำหอมกลิ่น Oceanic เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับกลิ่นสนชื่นบนภูเขา หรือผ้าลินินสะอาดๆ ว่ากันว่านี่คือน้ำหอมที่เหมาะกับการไปสัมภาษณ์งานและออกงานที่เป็นทางการต่างๆ
8. Spicy
น้ำหอมกลิ่น Spicy มักจะมีส่วนประกอบของ อบเชย (cinnamon), ขิง, กระวาน, กานพลู และพริกไทย เป็นต้น กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกน่าดึงดูดและหรูหราในแบบ old fashioned น้ำหอมกลิ่นนี้เหมาะกับการใช้ในสบายๆ สุดๆ เลยล่ะค่ะ
นอกจากนี้กลิ่นของน้ำหอมทั้ง 8 กลิ่น ยังแบ่งได้อีก 3 ระดับดังนี้
- Top note น้ำหอมกลิ่นเบาบาง ติดทนประมาณ 15 นาที – 2 ชั่วโมง ได้แก่ กลิ่น Citrus, Lavender และ Lemon grass
- Medium note ติดทนประมาณ 3-5 ชั่วโมง ได้แก่ กลิ่น Floral, Green, Fruity และ Spicy
- Base note ติดทนประมาณ 5-10 ชั่วโมง ได้แก่ กลิ่น Woody และ Balsamic
เป็นยังไงกับบ้างคะ ได้ความรู้เรื่องน้ำหอมเยอะแยะเลยใช่ไหมเอ่ย นอกจากนี้ยังมีบทความ กลิ่นน้ำหอมที่หนุ่มๆ ชอบ เพื่อเป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อน้ำหอมของสาวๆ ด้วยน้า ฝากติดตามด้วยนะคะว่า Little nomad จะมีบทความเกี่ยวกับน้ำหอมในเรื่องใดมาฝากสาวๆ อีกบ้าง
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก: lifehacker, mineperfume, hellomagazine, makeupandbeautytips, みお.net, stylecraze, azaban, scentbird, artofmanliness
มีประสบการณ์เขียนบทความเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ ความงามมากว่า 3 ปี โดยเฉพาะบทความด้านความสวยความงามของสาวๆ จะสนใจมากเป็นพิเศษ และหากสงสัยว่าทำไมต้อง little nomad? 'nomad' หมายถึงกลุ่มคนที่เดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ใส่ 'little' เพิ่มเข้าไปเพื่อความน่ารักปุ๊กปิ๊ก เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ชอบเที่ยวมากกกก ซึ่งไม่ใช่แค่เที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่ยังหมายถึงการท่องโลกอินเทอร์เน็ตเพื่อตามเทรนด์บิวตี้ เรื่องสวยๆ งามๆ อีกด้วย นี่แหละค่ะคือเรื่องที่เราสนใจ ไม่ว่าจะเรื่องดูแลหุ่น ผิวพรรณ ทางเราลองผิดลองถูกมาเยอะแล้ว เลยอยากมาแชร์เพื่อนๆ กัน!