เมื่ออายุมากขึ้น สิ่งที่ผู้หญิงอย่างเรากังวลกันคงไม่ใช่แค่เรื่องรอยสิว ผิวมัน หรือริ้วรอยแล้ว แต่จะมีทั้งฝ้า กระ จุดด่างดำเพิ่มเข้ามาให้ปวดใจ ซึ่งฝ้าก็เกิดจากการที่เราไม่ขยันทาครีมกันแดดนั่นแหละ เมื่อโดนรังสี UV สะสมไปเรื่อยๆ จึงเป็นฝ้า หรือแม้แต่การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ความเครียด และฮอร์โมนก็มีส่วนทำให้เกิดฝ้าบนหน้าเราได้เช่นกัน แต่จะย้อนเวลาไปทาครีมกันแดดบ่อยๆ ก็ไม่ทันแล้ว ดังนั้นเราเลยเอาทริครักษาฝ้าที่ได้ผลมาแนะนำกัน และไอเทมที่จะมารีวิวในวันนี้ก็คือโฟมล้างหน้ารักษาฝ้า สมูทอี แอนไท เมลาสม่า แอนด์ไวท์เบบี้เฟสโฟม (Smooth E Anti-Melasma & White Babyface Foam) เวชสำอางรักษาฝ้าแบบปลอดภัยที่ไม่ทำร้ายผิวหน้าและเซลล์ใต้ชั้นผิว แล้วโฟมล้างหน้าจะช่วยรักษาฝ้าได้จริงไหม ไปดูรีวิวและภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังใช้ 4 สัปดาห์กันค่ะ
รีวิว Smooth E Anti-Melasma & White Babyface Foam
โฟมล้างหน้าสมูทอี แอนไท เมลาสม่า เป็นเวชสำอางรักษาฝ้าแบบปลอดภัยสูตรไม่มีฟอง Non-Ionic (Nis) แท้ 100% ไม่มีฟองและประจุไฟฟ้า มีส่วนผสมของ Alpha Arbutin ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินที่มากเกินปกติให้เข้าสู่ภาวะสมดุล จึงช่วยดูแลผิวให้เนียนกระจ่างใส ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือรอยด่างขาว ไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นสาเหตุของสิวและริ้วรอย รวมถึงไม่ทำร้ายผิวหน้าและเซลล์ใต้ชั้นผิวอีกด้วย
เนื้อผลิตภัณฑ์
เนื้อโฟมล้างหน้าสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ สบายๆ ไม่มีฟอง รู้สึกว่าเนื้อคล้าย Smooth E Babyface Foam ที่เคยใช้เลย ตอนวัยรุ่นหลายๆ คนน่าจะเคยใช้กันแน่ๆ
ความรู้สึกหลังใช้
ตอนล้างหน้าผ่อนคลายมาก เพราะส่วนตัวชอบกลิ่นของสมูทอีอยู่แล้วอะนะ หลังล้างรู้สึกว่าผิวหน้าสะอาดดี ความมันหายไป แต่ผิวไม่แห้งตึง เหมือนยังมีความชุ่มชื้นหลงเหลืออยู่ สำหรับเรื่องฝ้า จะเริ่มรู้สึกว่าฝ้าจางลงหลังสัปดาห์ที่ 2 และพอใช้ครบ 4 สัปดาห์ก็ดูดีขึ้นเยอะมาก แบบมาก! แต่ใครที่รักษาฝ้าอยู่และไม่อยากให้เป็นซ้ำๆ สิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือ ทาครีมกันแดด ต้องมีวินัยควบคู่ไปกับการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้านี่แหละ ไม่งั้นก็ไม่หายสักที
แนะนำการบำรุงผิวสำหรับผู้เป็นฝ้า
ต่อไปเป็นทริครักษาฝ้าเพื่อผิวใสเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเอามาฝากกัน นอกจากโฟมล้างหน้าแล้วก็ควรบำรุงผิวหน้าด้วยครีมเพื่อรักษาฝ้าให้หายเร็วยิ่งขึ้นด้วย โดยครีมรักษาฝ้ามี 2 แบบด้วยกัน คือ ครีมที่ให้ผลเร็ว 1-2 สัปดาห์ และ ครีมที่ให้ผลช้ากว่า ประมาณ 4 สัปดาห์
1. ครีมที่ให้ผลเร็ว 1-2 สัปดาห์ ส่วนใหญ่เป็นครีมที่มีสารลอกฝ้า
- ข้อดี: ฝ้าจางเร็ว รู้สึกว่าฝ้าหายเร็ว
- ข้อเสีย: หน้าบางลง เพราะลอกผิวชั้นนอกออก ถ้าไม่ระมัดระวัง แล้วยังโดนแดดมากๆ ฝ้าจะกลับมาเร็วขึ้น ฝ้ากลับมาเป็นซ้ำง่ายและรักษายากขึ้น รูขุมขนกว้างขึ้น ผิวเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายขึ้น สิ่งสกปรกอุดตันได้ง่ายขึ้น
- ผิวสูญเสียน้ำได้ง่ายขึ้น
2. ครีมที่ให้ผลช้ากว่า (ประมาณ 4 สัปดาห์) มีส่วนผสมของ Alpha Arbutin
- เน้นการปรับผิวที่ภายในโดยไม่มีการลอกผิว การทำงานคือลดการเปลี่ยนสีของ Melanin จึงอาจเห็นผลช้ากว่า
- ข้อดี: หน้าไม่บางลงไม่ถูกทำลาย โดนแดดแล้วไม่เป็นฝ้าเร็ว หน้าเรียบเนียนเสมอ
- ปลอดภัยสำหรับผู้ตั้งครรภ์
ตอนนี้ทุกคนคงรู้แล้วแหละว่าควรเลือกครีมรักษาฝ้าแบบไหนดีที่ไม่ทำร้ายผิวหน้า ต่อไปเราจะมาแนะนำครีมรักษาฝ้าจากสมูทอีกันค่ะ ซึ่งมี 2 ตัว ทั้งแบบมีและไม่มีสารกันแดด บอกเลยว่ายิ่งใช้คู่กับโฟมล้างหน้ายิ่งเห็นผลดีนะ
1. Smooth E White Babyface Serum
(สำหรับตอนกลางวัน วันที่ไม่โดนแดด หรือกลางคืน)
สมูท อีไวท์ เบบี้เฟซ เซรั่ม มีตัวยาสำคัญสำหรับการรักษาฝ้า ได้แก่ Alpha Arbutin, Licorice และ Bisabolol ซึ่งเป็นสารสกัดธรรมชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง ทำให้ผิวเนียน กระจ่างใส ทั้งยังช่วยให้ฝ้าจางลงใน 4 สัปดาห์แรกที่ใช้อีกด้วย ตัวนี้เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยเจอแดด เช่น พนักงานออฟฟิศ เป็นต้น
2. Smooth E White Babyface Serum Plus SPF44
สำหรับตอนกลางวันที่เจอแสงแดด
สำหรับสมูท อีไวท์เบบี้เฟซ เซรั่ม พลัส SPF44 ก็มีตัวยาสำคัญเป็น Alpha Arbutin และ Licorice เช่นเดียวกัน แต่ต่างกับตัวแรกที่มีสารกันแดด SPF44 ด้วย จึงเหมาะกับคนที่ต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานหรือออกแดดบ่อยๆ เป็นครีมที่ช่วยทำให้จุดด่างดำจางลง ผิวเนียนใสขึ้นอย่างปลอดภัยและเห็นผลจริง รวมถึงผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังจากโรงพยาบาลแล้วว่าเห็นผลจริง จุดด่างดำจางลงใน 4 สัปดาห์และปลอดภัยแม้แต่ผิวแพ้ง่าย
แต่แม้ว่าสมูท อีไวท์เบบี้เฟซ เซรั่ม พลัส SPF44 จะมีสารกันแดดแล้ว เราก็ควรทาครีมกันแดดซ้ำอีกครั้งด้วย เพื่อปกป้องผิวจากแสง UVA และ UVB ไม่ให้เกิดฝ้ามากกว่าเดิม
เปรียบเทียบก่อน/หลังใช้ผลิตภัณฑ์ 4 สัปดาห์
มาดูผลลัพธ์หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์จากสมูทอีมา 4 สัปดาห์กันเลย ทั้งนี้ต้องทาครีมบำรุงและครีมกันแดดอย่างมีวินัยด้วยนะคะ และถ้าเลี่ยงได้ก็อย่าไปตากแดดจัดๆ ด้วย
เห็นไหมว่าถึงจะใช้เวลานานหน่อยแต่ก็เป็นการรักษาฝ้าอย่างปลอดภัยและเห็นผลจริงๆ ไม่ทำให้ผิวหน้าระคายเคืองและบางลงเหมือนการใช้ครีมลอกฝ้าที่เห็นผลเร็ว ดังนั้นใครกำลังมองหาครีมรักษาฝ้าและจุดด่างดำอยู่ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของ อัลฟ่า อาร์บูติน จะดีกว่า เพื่อผิวที่ดีในระยะยาวและป้องกันการเกิดฝ้าซ้ำๆ ด้วย และอย่าลืมหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน แม้ว่าฝ้าจะหายแล้วด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นก็อาจกลับมาเป็นซ้ำอีกได้
ราคาผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ชิ้น
- Smooth E Anti-Melasma & White Babyface Foam ราคา 105 บาท (1 Oz.) / 190 บาท (2 Oz.) / 325 บาท (4 Oz.)
- Smooth E White Babyface Serum ราคา 345 บาท (0.4 Oz.) / 565 บาท (0.8 Oz.)
- Smooth E White Babyface SerumPlus SPF44 ราคา 575 บาท (0.8 Oz.)
ซื้อได้ที่ Tops, Boots, Watsons, Gourmet, Big C, Tesco Lotus, EveandBoy, Beautrium และ Tsuruha
มีประสบการณ์เขียนบทความเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ ความงามมากว่า 3 ปี โดยเฉพาะบทความด้านความสวยความงามของสาวๆ จะสนใจมากเป็นพิเศษ และหากสงสัยว่าทำไมต้อง little nomad? 'nomad' หมายถึงกลุ่มคนที่เดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ใส่ 'little' เพิ่มเข้าไปเพื่อความน่ารักปุ๊กปิ๊ก เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ชอบเที่ยวมากกกก ซึ่งไม่ใช่แค่เที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่ยังหมายถึงการท่องโลกอินเทอร์เน็ตเพื่อตามเทรนด์บิวตี้ เรื่องสวยๆ งามๆ อีกด้วย นี่แหละค่ะคือเรื่องที่เราสนใจ ไม่ว่าจะเรื่องดูแลหุ่น ผิวพรรณ ทางเราลองผิดลองถูกมาเยอะแล้ว เลยอยากมาแชร์เพื่อนๆ กัน!