วันนี้เราจะพาไปดูรีวิวเปรียบเทียบเจลลดรอยสิว 5 ยี่ห้อดัง ตัวไหนเห็นผลเร็วที่สุด ประจำปี 2019 โดยจะทดสอบทั้งความชุ่มชื้นด้วยเครื่องมือ, ทดสอบค่า pH ความเป็นกรด-ด่าง และผลลัพธ์ก่อน-หลังใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยสิวหรือแผลเป็นให้เห็นกันชัดๆ ไปเลย! ถ้าพร้อมแล้วก็ไปพิสูจน์กันเลยว่าครีมลดรอยสิวเจ้าไหนเด็ดและคุ้มค่าแก่การลงทุนที่สุด
อันดับแรกต้องบอกก่อนว่าผลลัพธ์ของการรีวิวขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและระยะเวลาของรอยสิวด้วย รอยใหม่ๆ อาจจะหายเร็วกว่ารอยเก่า รวมถึงสีและความเข้มของรอยสิวก็มีส่วนทำให้ผลการรีวิวแตกต่างกันไป เพื่อนๆ ลองดูเพื่อประกอบการตัดสินใจกันดูนะคะ
และอย่างที่บอกว่าเราจะทดสอบทั้งผลลัพธ์หลังใช้ 2 และ 4 สัปดาห์ รวมถึงทดสอบค่า pH และความชุ่มชื้นของผิวหลังทาเจลลดรอยสิวด้วย ซึ่งแต่เดิมก่อนทาครีม ความชุ่มชื้นผิวของผู้รีวิวอยู่ที่ 36 ตามภาพเลยค่ะ
เอาล่ะค่ะ เกริ่นมานานแล้วเนอะ เราไปดูรีวิวกันเลยดีกว่า!
สารบัญ
เนื้อเจลของแต่ละแบรนด์จะค่อนข้างคล้ายกัน ยกเว้น BK Acne Expert Bright และ Puricas Dragon’s Blood Scar Gel เดี๋ยวเราจะพูดถึงกันทีละตัวเลย
1. รีวิว BK Acne Expert Bright
เริ่มด้วยเอสเซนส์จาก BK ถึงจะไม่ใช่เนื้อเจลแต่ก็บางเบาพอๆ กัน ตัวนี้เป็นเซรั่มสำหรับคนมีรอยสิว รอยดำ รอยแดง รวมถึงฝ้า กระ จุดด่างดำ มีสรรพคุณให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ดูกระจ่างใส มีสารสกัดไวท์เทนนิ่งเพื่อเคลียร์รอยต่างๆ เหมาะสำหรับคนเป็นสิวผิวแพ้ง่าย
ราคา 680 บาท (30 กรัม)
ความรู้สึกหลังลองใช้ BK Acne Expert Bright
สำหรับตัวแรกเป็นเซรั่มเนื้อสีขาวขุ่นคล้ายครีม ตอนแรกดูเหมือนเนื้อหนา แต่พอเกลี่ยลงบนผิวแล้วค่อนข้างบางเบาเลย ไม่เหนอะหนะ สามารถทาได้ทั้งหน้า ไม่ใช่แค่เฉพาะจุดที่มีแผลเป็น เนื้อครีมไม่มีกลิ่นฉุน
ภาพก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ 2-4 สัปดาห์
ผู้รีวิวมีรอยสิวเหนือริมฝีปากค่ะ และลองทา BK Acne Expert Bright เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่ง 2 สัปดาห์แรกจะเห็นได้ว่ารอยดำยังไม่หายไป แต่รู้สึกว่าผิวโดยรวมใสขึ้นนิดๆ ไม่ได้ขาวขึ้นนะแต่มันดูกระจ่างใส หลังจากใช้มา 1 เดือน รอยดำเริ่มจางลงนิดนึง แต่ก็ยังจางไม่หมด น่าจะต้องใช้ไปอีกสักระยะเพราะเข้าใจว่ารอยดำหายช้ามากกกก ส่วนตัวคิดว่าตัวนี้ราคาสูงนะ แต่ถ้าซื้อตอนมีโปรก็โอเคอยู่
ทดสอบความชุ่มชื้นของเนื้อผลิตภัณฑ์
หลังทาความชุ่มชื้น = 40% (จากเดิม 36)
*ค่าความชุ่มชื้นของผิวอาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวในตอนนั้นๆ
ทดสอบค่า pH ความเป็นกรดเป็นด่าง
ค่า pH = 4.5
ค่า pH ของผิวเราที่มีความสมดุลจะอยู่ที่ระดับ 5.5 ค่ะ มีความเป็นกรดอ่อนๆ (acid mantle) ที่ผิวเรามีค่า pH เป็นกรดอ่อนๆ ก็เพราะว่า เกิดจากน้ำมันจากต่อมไขมัน (Sebum) ผลิตออกมาสู่ผิวหนังชั้นนอก แล้วมาผสมกับกรดแลคติกและอะมิโนที่มาจากเหงื่อบนผิวหนังเรา เลยทำให้เกิดเป็นค่า pH ระดับ 5.5 ซึ่งเป็นค่า pH ที่มีความเหมาะสมกับผิวเรามากที่สุด – idskinexpert
คะแนนรีวิว
- เนื้อซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ: 4/5
- กลิ่น: 4/5
- ประสิทธิภาพ: 3.5/5
2. รีวิว Puricas Dragon’s Blood Scar Gel
มาต่อกันที่เจลลดรอยแผลเป็นตัวดังที่มีรีวิวเยอะมาก ใช้ได้ทั้งกับรอยสิว รอยดำ รอยแดง จุดเด่นของ Puricas คือมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติอย่าง Dragon’s Blood ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ลดรอยแดง รอยดำ ช่วยปกป้องเซลล์ผิว ช่วยซ่อมแซมผิวอย่างล้ำลึก สมานแผลและเติมเต็มชั้นผิวหนัง ทั้งยังมีสารสกัดจากหัวหอม (Allium Cepa) ช่วยลดรอยแผลเป็นและจุดด่างดำให้ดูจางลง ตัวนี้ไม่มีแอลกอฮอล์และน้ำหอมด้วย
ราคา 290 บาท (8 กรัม) / 690 บาท (20 กรัม)
ความรู้สึกหลังลองใช้ Puricas Dragon’s Blood Scar Gel
เนื้อเจลออกสีน้ำตาลใสๆ ซึมง่าย แห้งไว ทาไปแป๊บเดียวก็แห้งเลย ส่วนตัวผิวมันเลยชอบมากที่ใช้แล้วไม่หนะผิว ตัวนี้แอบมีกลิ่นแรงหน่อย คิดว่าน่าจะเป็นกลิ่นของพวกสารสกัดธรรมชาติ แต่ทาสักพักกลิ่นก็หายไป
ภาพก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ 2-4 สัปดาห์
มาดูผลลัพธ์กัน ผู้รีวิวมีรอยสิวตรงคางเพราะเพิ่งมีรอบเดือนด้วย ก็นะ ปัญหาของสาวๆ อย่างเรา.. พอสิวหายก็รีบทาเจลลดรอยสิวเลย ขยันทาทุกวัน ปรากฏว่ารอยจางไวมาก จริงๆ 1 อาทิตย์ก็รู้สึกแล้วว่ารอยหายไป หลังครบ 1 เดือน รอยดำของสิวอักเสบที่วงไว้หายเกือบหมดแล้ว พวกรอยแดงก็ดีขึ้นด้วยค่ะ คิดถูกมากๆ ที่รีบทาหลังสิวยุบเลย
ทดสอบความชุ่มชื้นของเนื้อผลิตภัณฑ์
หลังทาความชุ่มชื้น = 42% (จากเดิม 36)
*ค่าความชุ่มชื้นของผิวอาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวในตอนนั้นๆ
ทดสอบค่า pH ความเป็นกรดเป็นด่าง
ค่า pH = 5.0
คะแนนรีวิว
- เนื้อซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ: 4.5/5
- กลิ่น: 3.5/5
- ประสิทธิภาพ: 5/5
3. รีวิว Dermatix Ultra Gel
หลายๆ คนน่าจะเคยเห็น Dermatix ซิลิโคนเจลลดเลือนรอยแผลเป็นผ่านตามาบ้างแล้ว ตัวนี้เหมาะกับแผลเป็นหนา นูน มีสีดำหรือแดง และอาจมีอาการคันร่วมด้วย ได้แก่ แผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดทั่วไป อุบัติเหตุ รอยขีดข่วน แมลงกัดต่อย แผลไฟไหม้ ของมีคมบาด ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะช่วยให้รอยแผลเป็นนุ่ม ดูจางลง และเรียบขึ้น ตามคำเคลมแนะนำให้ใช้หลังแผลหายสนิทแล้วทันที เพราะจะใช้ได้ผลดีกับแผลใหม่ๆ
ราคา 430 บาท (5 กรัม)
ความรู้สึกหลังลองใช้ Dermatix Ultra Gel
เนื้อใสไม่มีสี ไม่มีกลิ่นเลย รู้สึกว่าเนื้อเค้ามีความหนืด พอทาแล้วจะไม่ได้เป็นเจลน้ำๆ แต่จะเป็นเจลที่มีความเข้มข้นหน่อย เหนียวนิดๆ แต่ซึมค่อนข้างเร็ว ส่วนตัวชอบเพราะไม่กลิ่นเลยนี่แหละ
ภาพก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ 2-4 สัปดาห์
ผู้รีิวิวมีรอยดำและหลุมสิวที่หน้าผากค่ะ ซึ่งรอยชัดๆ ก็เกิดจากสิวอักเสบนั่นแหละ ในภาพอาจจะไม่ค่อยเห็นความต่าง แต่จริงๆ ก็ต่างกันอยู่นะ หลังใช้ 2 สัปดาห์แรกเรารู้สึกเฉยๆ แต่หลัง 1 เดือนก็รู้สึกว่าเอ้อ รอยดำมันจางลงอะ แต่พวกหลุมสิวคือเหมือนเดิม แต่ส่วนนี้ไม่ได้คาดหวังตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะเป็นรอยเก่าที่นานมากแล้ว
ทดสอบความชุ่มชื้นของเนื้อผลิตภัณฑ์
หลังทาความชุ่มชื้น = 38% (จากเดิม 36)
*ค่าความชุ่มชื้นของผิวอาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวในตอนนั้นๆ
ทดสอบค่า pH ความเป็นกรดเป็นด่าง
ค่า pH = 6.5
คะแนนรีวิว
- เนื้อซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ: 4/5
- กลิ่น: N/A
- ประสิทธิภาพ: 4/5
4. รีวิว Mederma Intense Gel
ถัดมาเป็นเจลลดเลือนรอยแผลเป็นใหม่และรอยแผลเป็นเก่า, จุดด่างดำจากสิว, รอยแผลคีลอยด์ รวมถึงรอยแผลผ่าตัด มีสาร Cepalin ที่จะช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ, Allantoin ปลอบประโลมผิวระคายเคืองและบอบบาง นอกจากนี้ยังมี Sodium Hyaluronate ที่มีส่วนช่วยให้ผิวนุ่มและเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย
ราคา 399 บาท (10 กรัม)
ความรู้สึกหลังลองใช้ Mederma Intense Gel
สำหรับตัวนี้ก็เป็นเนื้อเจลใสไม่มีสีเหมือนกัน มีความบางเบา เกลี่ยแล้วเป็นน้ำๆ ซึมเร็วดีค่ะ แต่แนะนำว่าอย่าทาหนาเกินไป เพราะถ้าไปถูโดนเนื้อเจลอาจลอกเป็นขุยได้ หรือเพราะสภาพผิวตอนนั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตัวนี้ติดนิดนึงเรื่องกลิ่นค่ะ ส่วนตัวแอบรู้สึกฉุน
ภาพก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ 2-4 สัปดาห์
ผู้รีวิวมีรอยแดงจากสิวที่แก้มค่ะ แต่เป็นมาสักพักแล้วเพิ่งจะมาทายาลดรอยนี่แหละ ชะล่าใจมากกกก อะมาลองดูกัน… อย่างที่คิดเลย รอยดูไม่ค่อยจางลงเท่าไหร่ ทั้งหลัง 2 และ 4 สัปดาห์ คือมันจางบ้าง แต่แค่นิดนึงเลยดูไม่ต่างกันมาก น่าจะต้องทาต่ออีกเพราะทิ้งไว้นานเกิน เพื่อนๆ อย่าปล่อยไว้เหมือนเรานะ พอสิวหายต้องรีบทาครีมเลย!
ทดสอบความชุ่มชื้นของเนื้อผลิตภัณฑ์
หลังทาความชุ่มชื้น = 41% (จากเดิม 36)
*ค่าความชุ่มชื้นของผิวอาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวในตอนนั้นๆ
ทดสอบค่า pH ความเป็นกรดเป็นด่าง
ค่า pH = 5.0
คะแนนรีวิว
- เนื้อซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ: 4/5
- กลิ่น: 3/5
- ประสิทธิภาพ: 3.5/5
5. รีวิว Hiruscar PostAcne
สำหรับตัวสุดท้ายเป็นเจลใสที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดรอยสิวโดยเฉพาะตามชื่อผลิตภัณฑ์ โดยมีคุณสมบัติหลักๆ ได้แก่ ช่วยกระตุ้นการสร้างกรดไฮยาลูรอนิค ทั้งยังมีสารสกัดของหัวหอมจากเยอรมนี ช่วยลดอาการอักเสบ ทำให้รอยแดงและรอยคล้ำจางลง และไพโอนิน สารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียต่างๆ เป็นสูตรปราศจากแอลกอฮอล์ แต่ซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ ผลลัพธ์จะเป็นดังคำเคลมหรือไม่ ไปลุ้นกันค่ะ
ราคา 379 บาท (10 กรัม)
ความรู้สึกหลังลองใช้ Hiruscar PostAcne
เนื้อเจลสีเหลืองอ่อนใสๆ อย่างแรกที่รู้สึกคือกลิ่น ฉุนสุดเลยถ้าเทียบกับตัวอื่น แต่ก็นึกในทางที่ดีว่านางไม่มีน้ำหอมอะนะ เนื้อซึมเร็วแห้งไวคล้ายๆ กัน
ภาพก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ 2-4 สัปดาห์
เทียบรอยดำจากสิวข้างมุมปากที่เห็นชัดๆ จะเห็นว่ารอยค่อยๆ จางลงบ้างแล้วตั้งแต่หลังใช้ไป 2 อาทิตย์ แต่ยังไม่จางไปทั้งหมด ส่วนจุดด่างดำบางๆ ก็จางลงบ้างเหมือนกัน แต่แนะนำให้รีบทาหลังสิวหายใหม่ๆ เลยนะคะ
ทดสอบความชุ่มชื้นของเนื้อผลิตภัณฑ์
หลังทาความชุ่มชื้น = 40% (จากเดิม 36)
*ค่าความชุ่มชื้นของผิวอาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวในตอนนั้นๆ
ทดสอบค่า pH ความเป็นกรดเป็นด่าง
ค่า pH = 6.0
คะแนนรีวิว
- เนื้อซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ: 4/5
- กลิ่น: 2.5/5
- ประสิทธิภาพ: 4/5
สรุปรีวิวเจลลดรอยสิว 5 ยี่ห้อ
ผลิตภัณฑ์ | |||||
---|---|---|---|---|---|
ค่าความชุ่มชื้น | 40% | 42% | 38% | 41% | 40% |
ค่า pH จากการทดสอบ | 4.5 | 5.0 | 6.5 | 5.0 | 6.0 |
เนื้อซึมเร็ว | 4/5 | 4.5/5 | 4/5 | 4/5 | 4/5 |
กลิ่น | 4/5 | 3.5/5 | N/A | 3/5 | 2.5/5 |
ประสิทธิภาพ | 3.5/5 | 5/5 | 4/5 | 3.5/5 | 4/5 |
จากผลการรีวิวในครั้งนี้ ขอยกให้ Puricas ชนะเลิศ ด้วยเพราะราคาที่ไม่แรงและผลลัพธ์ที่ได้ด้วย ตามด้วย Dermetix > Hiruscar > Mederma > BK ตามลำดับ แต่อย่างที่บอกเมื่อตอนต้นว่าผลลัพธ์ล้วนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสภาพผิวของผู้รีวิว ความเข้มและระยะเวลาของรอยสิว รวมถึงความขยันในการทาครีมลดรอยสิวด้วย ทั้งนี้ก่อนจะลองใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่าลืมทดสอบอาการแพ้ก่อนด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยต่อผิวของเรา
หวังว่ารีวิวเจลลดรอยสิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยน้า ผลลัพธ์ของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน เพราะงั้นต้องลองด้วยตัวเองถึงจะดีที่สุด! จะได้รู้ว่าตัวเองเหมาะกับผลิตภัณฑ์ตัวไหนนั่นเอง
มีประสบการณ์เขียนบทความเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ ความงามมากว่า 3 ปี โดยเฉพาะบทความด้านความสวยความงามของสาวๆ จะสนใจมากเป็นพิเศษ และหากสงสัยว่าทำไมต้อง little nomad? 'nomad' หมายถึงกลุ่มคนที่เดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ใส่ 'little' เพิ่มเข้าไปเพื่อความน่ารักปุ๊กปิ๊ก เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ชอบเที่ยวมากกกก ซึ่งไม่ใช่แค่เที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่ยังหมายถึงการท่องโลกอินเทอร์เน็ตเพื่อตามเทรนด์บิวตี้ เรื่องสวยๆ งามๆ อีกด้วย นี่แหละค่ะคือเรื่องที่เราสนใจ ไม่ว่าจะเรื่องดูแลหุ่น ผิวพรรณ ทางเราลองผิดลองถูกมาเยอะแล้ว เลยอยากมาแชร์เพื่อนๆ กัน!