เรื่องการแต่งหน้าในสมัยนี้ ต้องบอกเลยว่ามีอยู่มากมายหลายขั้นตอน และยิ่งในปัจจุบันที่ตลาดของเครื่องสำอางกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ทางแบรนด์ต่างๆ ได้คิดค้นสินค้าที่ใช้สำหรับแต่งหน้าขึ้นมากันอย่างมากมาย แต่ในวันนี้เราจะมาเจาะลึกพูดถึงตัวผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อว่า “ไพรเมอร์” กันค่ะ ไอเทมคืออะไร สำคัญอย่างไร และช่วยเรื่องอะไรบ้างนะ
สารบัญ
ไพรเมอร์ (Primer) คืออะไร
คือ ครีมใช้ทาที่หน้าก่อนที่จะลงรองพื้นในขั้นตอนต่อไป ไพรเมอร์จึงมีหน้าที่ช่วยในการปรับสภาพของผิวหน้า ช่วยพรางรูขุมขน แต่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามถึงขั้นตอนนี้ไปเพราะมองว่าไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น และคิดว่าตัวรองพื้นหรือบีบี ซีซี ครีมที่ใช้นั้นมีประสิทธิภาพดีอยู่ด้วย
ไพรเมอร์ต่างกับรองพื้น บีบีครีมอย่างไร
เชื่อว่าใครหลายๆ คนก็คงอาจจะมีสับสนอยู่ไม่น้อยว่า รองพื้น, ไพรเมอร์, เบส, บีบีครีม และคุชชั่นแตกต่างกันอย่างไร ควรเลือกใช้อะไรบ้างให้เหมาะแก่สภาพผิวหน้าของเรา ไปดูกันได้เลยค่ะ
1. ไพรเมอร์ (Primer)
คือเนื้อเจลที่มีส่วนผสมระหว่างซิลิโคนกับน้ำ มีเนื้อที่บางเบา ไม่ช่วยเรื่องการปกปิดรอย แต่จะช่วยปรับสภาพผิวของหน้า ช่วยเรื่องอำพรางรูขุมขน ริ้วรอย ทาแล้วจะรู้สึกว่าผิวหน้าลื่นขึ้น ใช้ทางทั้งหน้า สามารถใช้แทนรองพื้นได้เลยสำหรับสาวๆ ที่ต้องการเน้นการแต่งหน้าแบบสบายๆ โชว์ผิวสวย
2. เบส (Base)
เป็นเนื้อครีมที่จะช่วยปรับสภาพสีผิว จะต่างจากไพรเมอร์ตรงที่ไพรเมอร์จะปรับพวกรอยรูขุมขน แต่เบสจะปรับแค่สีผิว โดยจะใช้ทาเฉพาะจุดที่มีปัญหา ซึ่งเบสก็แบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะสีของเนื้อเบส
- สีขาว: ใช้ไฮไลต์เฉพาะจุดของใบหน้า ให้ดูสว่างและมีมิติมากขึ้น
- สีเขียว: เหมาะสำหรับคนที่ผิวขาว ใช้ช่วยลดรอยแดง รอยสิว รอยเส้นเลือด
- สีม่วง: ช่วยเรื่องปัญหาผิวหน้าที่โทรมจากการพักผ่อนน้อย โดยเบสสีนี้จะทำให้ผิวหน้าดูสว่างกระจ่างใสมากขึ้น
- สีฟ้า: ช่วยเรื่องรอยหมองคล้ำ ฝ้า กระ ทำให้สีผิวของใบหน้าดูสม่ำเสมอกันมากขึ้น
- สีเหลือง: เหมาะสำหรับคนผิวโทนสีเหลืองเกือบๆ สีแทน สีนี้จะช่วยให้ผิวเนียนและสว่างขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดรอยแดงอีกด้วย
- สีชมพูและสีแดง: เหมาะสำหรับคนผิวขาวซีด ช่วยให้หน้าดูมีความอมชมพู ดูสุขภาพดี
- สีพีช: ช่วยเรื่องรอยคล้ำต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา
- สีน้ำตาลบรอนซ์ : ทำหน้าที่เหมือนบรอนซ์เซอร์ ช่วยให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น
3. รองพื้น (Foundation)
มีหลายรูปแบบทั้งแบบน้ำ แบบเท่ง แบบครีม ซึ่งจะมีเนื้อครีมที่หนักเบาแตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ โดยรองพื้นจะเป็นตัวที่ช่วยเรื่องของการปกปิดและปรับสภาพผิวอีกครั้งก่อนแต่งหน้า
4. บีบีครีม (BB Cream)
BB Cream ย่อมาจาก Blemish Blam Cream เป็นครีมปรับสภาพผิวหน้าที่รวมทั้งเบสและรองพื้นไว้ในตัวเดียวกัน โดยตอนนี้นี้บีบีครีมเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะจะช่วยเรื่องของการประหยัดเวลาและขั้นตอนในการแต่งหน้า นอกจากนั้นเนื้อบีบีครีมบางแบรนด์ยังมีความบางเบากว่ารองพื้น ทำให้ใช้แล้วไม่รู้สึกหนักที่ผิวหน้านั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ได้มีการแตกแยกย่อยออกไปอีกมากมาย เช่น CC AA DD EE
5. คุชชั่น (Cushion)
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ง่ายและพกพาสะดวก โดยคุชชั่นก็มีทั้งแบบเนื้อรองพื้น และเนื้อบีบีครีม ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะร่วมส่วนผสมของเบสและไพรเมอร์ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
สรุป: ทั้งหมดไม่เหมือนกันเลยค่ะ เบสไว้ปรับสีผิว ไพรเมอร์ไว้ปรับสภาพผิว ส่วนรองพื้น, บีบีครีมหรือคุชชั่น (เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง) เอาไว้ลงเพื่อนปิดรอยผิวสำหรับการแต่งหน้านั่นเอง
ไพรเมอร์สำคัญแค่ไหน
หลังจากที่เรารู้ถึงความแตกต่างของแต่ละประเภทกันไปแล้ว ทีนี้เราก็าดูกันว่าประโยชน์ของไพรเมอร์นั้นมีอะไรกันบ้าง ซึ่งบอกเลยว่าหลังจากรู้ประโยชน์แล้ว สาวๆ จะไม่มองข้ามขั้นตอนนี้อีกต่อไปเลยล่ะค่ะ
- ช่วยให้การแต่งหน้าติดทนยิ่งขึ้น ตัวไพรเมอร์จะเข้าไปผสานให้รองพื้นหรือบีบีครีมอยู่ติดทน ไม่ดรอป ไม่หลุดระหว่างวัน แม้จะเป็นที่สภาพอากาศแย่มากๆ ก็ตาม ซึ่งเหมาะกับอากาศเมืองไทยที่สุด
- ช่วยปกปิดรูขุมขน สาวๆ คนไทยรูขุมขนกว้างต้องรีบจัดเลยนะคะ เพราะการทาไพรเมอร์จะช่วยเบลอรูขุมขนได้จริง และบางแบรนด์ยังสามารถช่วยคุมความมันของใบหน้าได้อีกด้วย
- ช่วยลดปริมาณการใช้รองพื้น เนื่องจากตัวไพรเมอร์จะเข้าไปช่วยเรื่องการปรับสภาพผิวเลยทำให้เราสามารถลดปริมาณของรองพื้นที่จะช่วยปกปิดปัญหานั้นได้นั่นเอง
- ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการแตกลายของรองพื้นและแป้ง หลายๆ ครั้งเวลาเราแต่งหน้าไปสักพักเราจะเห็นได้เลยว่า รองพื้นและแป้งมีความหลุดและแตกทำให้เกิดเป็นริ้วรอยต่างๆ หรือที่เราเรียกกันว่า แป้งตกร่องนั่นเอง ซึ่งเจ้าไพรเมอร์เนี่ยจะเข้าไปช่วยแก้ปัญหานั้นได้
- ใช้แทนรองพื้นช่วยให้ได้ลุคที่ธรรมชาติได้ เพราะก็อย่างที่ทราบกันดีว่าสมัยนี้เค้าก็จะเน้นการแต่งหน้าแบบใสๆ ลุคธรรมชาติกัน ซึ่งถ้าจะใช้รองพื้นหรือบีบีครีมก็ต้องบอกเลยว่าจะหนักเกินไปสำหรับการแต่งหน้าลุคนี้
แชร์เคล็ดลับวิธีลงไพรเมอร์ที่ถูกต้อง
วันนี้เราจะขอมาแชร์กับ 3 เคล็ดลับง่ายที่ใครๆ หลายคนมองข้ามนะคะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
1. อย่าใช้เยอะจนเกินไป
จริงอยู่ที่ตัวเนื้อไพรเมอร์ค่อนข้างจะบางเบา แต่สาวๆ ก็ควรใช้แบบเบามือด้วย ซึ่งเคล็ดลับก็คือค่อยๆ บีบออกมาทีละน้อยขนาดเท่าเม็ดข้าวโพดใส่หลังมือ แล้วใช้นิ้วค่อยๆ วอมเนื้อครีมบนหลังมือสักนิด จากนั้นใช้นิ้วแตะลงบนใบหน้าให้ทั่ว แนะนำให้แตะ อย่าปาดเด็ดขาด เพราะจะช่วยให้ครีมซึมลงสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
2. ทาแล้วต้องรอให้ซึมเข้าผิวสักพักก่อนลงรองพื้น
วิธีนี้สำคัญมาก เพราะเสี่ยงทำให้รองพื้นตกร่องได้สูง ทางที่ดีสาวๆ ควรจะทาไพรเมอร์แล้วรอให้เซตตัวซึมลงผิวหน้าสักพักประมาณ 1-2 นาที เพราะถ้าลงไพรเมอร์แล้วลงรองพื้นต่อเลยในขณะที่หน้ายังเปียกๆ อยู่บอกเลยว่า วันนั้นหน้าพังเยิ้มแน่ๆ เลยค่ะ
3. ทาหน้าแล้วอย่าลืมทาคอด้วยนะ
อันนี้เหมือนจะไม่สำคัญแต่ก็จำเป็นมากๆ เพราะอาจทำให้หน้ากับคอมีคนละเฉดสีกันได้เลยนะคะ ทางที่ดีถ้าไม่อยากโป๊ะก็ทาคอสักหน่อยนะคะ
สรุปแล้วไพรเมอร์จำเป็นไหม?
อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่ตัวสาวๆ ค่ะ ถ้าสาวๆ มีผิวหน้าที่ดี มีสีผิวที่สม่ำเสมอหรือไม่มีปัญหารูขุมขนต่างๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ไพรเมอร์ค่ะ แต่ถ้าสาวๆ มีปัญหาผิวที่ว่ามานี้อยู่ หรือมีปัญหาการแต่งหน้าแล้วไม่ติดทนก็จำเป็นต้องใช้ไพรเมอร์เข้ามาช่วยให้ผิวหน้าดูสวยและดียิ่งขึ้นค่ะ
แนะนำ 4 ไพรเมอร์ถูกและดี
ก่อนจากกันไปวันนี้เราก็จะขอมาแนะนำ 4 ไพรเมอร์ราคาถูกและดีมาฝากสาวๆ กันค่ะ
- Maybelline Baby Skin Pore Eraser ตัวนี้หลายๆ คนก็คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ข้อดีของนางก็คือเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมไว และไม่ทำให้หน้าเยิ้มระหว่างวัน
- Benefit The Porefessional ตัวนี้อำพรางรูขุมขนได้มากๆ ถือเป็นอีกตัวฮิตของใครหลายคน มีเนื้อครีมที่บางเบาสุดๆ อีกด้วย
- Pore Filler by NYX อีกหนึ่งตัวที่คุมมันและช่วยอำพรางรูขุมขนได้ดีแบบสุดๆ เนื้อครีมก็บางเบาซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ
- wet n wild Photo Focus Matte Face Primer ปิดท้ายกันที่ตัวนี้กับไพร์เมอร์เนื้อบางเบา คุมมันและช่วยอำพรางรูขุมขนได้ดีมากๆ ราคาก็เบาสบายกระเป๋า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หวังว่าบทความนี้คงจะทำให้เพื่อนๆ ชื่นชอบและได้รับความรู้กันไม่มากก็น้อย เอาเป็นว่าถ้าอยากจะแต่งหน้าออกมาแล้วสวยเป๊ะก็ทาไพรเมอร์เถอะค่ะ เดี๋ยวนี้ก็มีหลายแบรนด์ที่ทำออกมาจำหน่ายในราคาย่อมเยา น่าซื้อเก็บตุน!
ที่มาภาพ: theprettyhonest, healthline, totalbeauty, stylevana, weheartit, lookfantastic, stylecraze, makeuptutorials, intothegloss, purewow, beautyproductsaremycardio, sephora
