พบกับอะเครุรีวิวกันอีกแล้ว แต่คราวนี้เราไม่ได้มารีวิวเครื่องสำอางเหมือนเคย แต่จะมาเปรียบเทียบโลชั่นที่มีกลิ่นหอมเทียบเท่าน้ำหอมแบรนด์ไฮเอนด์กันค่ะ เทียบให้ดูช็อตต่อช็อตเลยว่าโลชั่นแต่ละตัว กลิ่นคล้ายน้ำหอมไฮเอนด์แบรนด์อะไร กลิ่นแบบไหน เผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนงบไม่ถึง แต่อยากตัวหอมแบบแพงๆ สไตล์ผู้ดีกัน!
1. Mistine Pretty Blooms Perfume Lotion
VS
Lancome Miracle Eau de Parfum Spray
สำหรับคู่แรกเราจะมาพูดถึงโลชั่นน้ำหอม Pretty Blooms ของมิสทีนค่ะ แบรนด์คุณภาพราคาย่อมเยาว์ของสาวไทย ถือว่าถูกมาก มีกลิ่นหอมนวลๆ คล้ายดอกไม้แบบอ่อนๆ เนื้อโลชั่นเป็นสีชมพูอ่อนมีเม็ดบีทส์น้ำหอมสีชมพูด้วย เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะผิว ซึมเร็วเลยแหละ
ด้วยความที่เป็นกลิ่นดอกไม้ พอดมแล้วเราคิดว่าคล้ายกับ Lancome Miracle อยู่นะ กลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆ มีความละมุน แต่สำหรับน้ำหอมจะสอดแทรกกลิ่นแนวสไปซี่ไว้ด้วย เหมาะกับสาวหวานซ่อนเปรี้ยว ราคาสูงนิดนึง ใครงบถึงก็จัดโล้ด แต่ถ้าไม่ก็ลองโลชั่นน้ำหอมมิสทีนแทนก็ได้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ละมุนแบบธรรมชาติ
ลักษณะเนื้อโลชั่น
เปรียบเทียบราคา
- Mistine Pretty Blooms Perfume Lotion ราคา 89 บาท (190 ml.)
- Lancome Miracle ราคา 2,400 บาท (30 ml.)
ความรู้สึกหลังใช้ Mistine Pretty Blooms Perfume Lotion
- กลิ่นหอมติดทน:
- ความชุ่มชื้น:
- คุ้มค่าคุ้มราคา:
- ไม่เหนียวเหนอะหนะ:
2. Oriental Princess Princess Garden Oriental White Flower Body Moisturiser
VS
Dolce&Gabbana Dolce Rosa Excelsa
ถัดมาเป็นโลชั่นของแบรนด์ที่สาวๆ น่าจะคุ้นหูกันดี Oriental Princess นั่นเอง Princess Garden Oriental White Flower Body Moisturiser นี้เป็นครีมบำรุงผิวกาย มีกลิ่นหอมของดอกไม้ แนว floral หวานๆ เนื้อครีมสีขาวข้น ต้องให้เวลาเค้าซึมลงผิวนิดนึงนะ
ส่วนตัวคิดว่ามีความคล้าย Dolce Rosa Excelsa ของ D&G ซึ่งเป็นกลิ่นดอกไม้เหมือนกัน แต่น้ำหอมตัวนี้จะรวมกลิ่นของดอกไม้ไว้หลายชนิดมาก เช่น ดอกแดฟโฟดิลขาว ดอกกุหลาบแอฟริกันด๊อก และลิลลี่น้ำสีขาว ให้ฟีลแบบอยู่ท่ามกลางดงดอกไม้ที่เบ่งบาน ช่วงท้ายจะมีกลิ่นอบอุ่นของมัสค์และความเผ็ดของเครื่องเทศรวมอยู่ด้วย
ลักษณะเนื้อโลชั่น
เปรียบเทียบราคา
- Oriental Princess Princess Garden Oriental White Flower Body Moisturiser ราคา 185 บาท (250 ml.)
- Dolce&Gabbana Dolce Rosa Excelsa ราคา 5,900 บาท (75 ml.)
ความรู้สึกหลังใช้ Princess Garden Oriental White Flower Body Moisturiser
- กลิ่นหอมติดทน:
- ความชุ่มชื้น:
- คุ้มค่าคุ้มราคา:
- ไม่เหนียวเหนอะหนะ:
3. Mistine Magic Blooms Perfume Lotion
VS
Clinique Happy
โลชั่นน้ำหอมอีกตัวของมิสทีนที่กลิ่นหอมถูกจริตเรามาก Mistine Magic Blooms Perfume Lotion มีกลิ่นหอมสะอาดๆ สุภาพ แอบสดชื่น ใช้ครั้งแรกบีบออกมาแล้วกลิ่นฟุ้งเลย หอมนวล ในเนื้อโลชั่นมีเม็ดบีทส์สีทองทำให้ผิวดูผ่องขึ้นเล็กน้อย ที่สำคัญใช้ได้นานด้วย
ขอยกมาเทียบกับ Clinique Happy ซึ่งจริงๆ แล้วกลิ่นนี้เป็นน้ำหอมสำหรับผู้ชายนะ แต่นางมีความคล้ายกัน โดยน้ำหอมตัวนี้จะมีกลิ่นหอมสดชื่นแนวซีทรัสหนักกว่า Mistine Magic Blooms เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ติดทนที่ไม่ฉุนเลย ผู้หญิงก็สามารถใช้ได้
ลักษณะเนื้อโลชั่น
เปรียบเทียบราคา
- Mistine Magic Blooms Perfume Lotion ราคา 89 บาท (190 ml.)
- Clinique Happy ราคา 1,700 บาท (50 ml.)
ความรู้สึกหลังใช้ Mistine Magic Blooms Perfume Lotion
- กลิ่นหอมติดทน:
- ความชุ่มชื้น:
- คุ้มค่าคุ้มราคา:
- ไม่เหนียวเหนอะหนะ:
4. Dance Body & Hand Perfume Lotion #So in Love
VS
Victoria’s Secret Eau So Sexy
ตัวต่อมาเห็นแพ็กเกจแล้วต้องหยิบมาลองเลย Dance กลิ่น So in Love รูปน้องไก่คิวท์ๆ โลชั่นน้ำหอมสำหรับผิวกายและมือ อันเล็กๆ พกไว้ทามือระหว่างวันได้ กลิ่นหอมฟุ้งหวานๆ เนื้อครีมเข้มข้น เหมาะกับคนที่อยู่ในห้องแอร์นานๆ เพราะซึมช้า มีส่วนผสมของ Argan Oil ช่วยบำรุงผิวด้วย ขายที่ 7-11 เท่านั้น
ถ้าจะบอกว่าคล้าย Victoria’s Secret Eau So Sexy มันก็ไม่คล้ายซะทีเดียว แต่เป็นกลิ่นที่มีความเซ็กซี่แนวๆ เดียวกัน สำหรับน้ำหอมจะมีกลิ่นหวานหอม แล้วตามด้วยกลิ่นสดชื่นเปรี้ยวๆ ของผลไม้ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ชอบน้ำหอมอาจเลี่ยนได้ จุดนี้ก็คล้ายกับ Dance #So in Love เหมือนกัน เพราะกลิ่นค่อนข้างแรง ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมาะกับคนที่ชอบน้ำหอมกลิ่นอ่อนๆ จางๆ
ลักษณะเนื้อโลชั่น
เปรียบเทียบราคา
- Dance Body & Hand Perfume Lotion ราคา 69 บาท (30 ml.)
- Victoria’s Secret Eau So Sexy ราคา 2,690 บาท (50 ml.)
ความรู้สึกหลังใช้ Dance Body & Hand Perfume Lotion
- กลิ่นหอมติดทน:
- ความชุ่มชื้น:
- คุ้มค่าคุ้มราคา:
- ไม่เหนียวเหนอะหนะ:
5. Dermapon Organic pH 5.5 Baby Lotion
VS
Bvlgari Petits et Mamans Eau de Toilette
โลชั่นแบรนด์ดั้งเดิมในตำนาน Dermapon สูตร Ultra Moist Double Milk & Vitamin E ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นโลชั่นเด็ก แต่ก็ฮอตฮิตมากในหมู่เราๆ เช่นกัน บางคนก็เคยชินก็กลิ่นหอมละมุนอ่อนๆ ของนางมาตั้งแต่เด็ก เป็นกลิ่นแนวแป้งเด็กใสๆ กลิ่นไม่แรง ไม่ฉุนกึ้ก ส่วนของเนื้อโลชั่นก็ซึมเร็วดี แต่ระวังอย่าทาเยอะไปนะ ไม่งั้นจะรู้สึกหนืดผิวได้
น้ำหอมที่นึกถึงเมื่อได้กลิ่นโลชั่นตัวนี้ก็คือ Bvlgari Petits et Mamans น้ำหอมกลิ่นน่ารักแนวแป้งเด็กแบบสะอาดๆ ที่เราคุ้นเคย มีกลิ่นวานิลลาบางๆ ผสานกับกลิ่นดอกไม้ เป็นกลิ่นในแบบที่ดมแล้วไม่เลี่ยน แต่ไม่ค่อยติดทนนัก ต้องพกไปเติมระหว่างวันบ้าง
ลักษณะเนื้อโลชั่น
เปรียบเทียบราคา
- Dermapon Organic pH 5.5 Baby Lotion ราคา 95 บาท (200 ml.)
- Bvlgari Petits et Mamans ราคา 2,370 บาท (100 ml.)
ความรู้สึกหลังใช้ Dermapon Organic pH 5.5 Baby Lotion
- กลิ่นหอมติดทน:
- ความชุ่มชื้น:
- คุ้มค่าคุ้มราคา:
- ไม่เหนียวเหนอะหนะ:
สรุปผลการรีวิวโลชั่นน้ำหอม
แบรนด์ | กลิ่นหอมติดทน | ชุ่มชื้น | คุ้มราคา | ไม่เหนียวเหนอะหนะ |
---|---|---|---|---|
4.5/5 | 4/5 | 5/5 | 4.5/5 | |
4/5 | 3.5/5 | 4/5 | 3.5/5 | |
4.5/5 | 4.5/5 | 5/5 | 4.5/5 | |
3.5/5 | 3/5 | 3.5/5 | 2/5 | |
3/5 | 4/5 | 3.5/5 | 4/5 |
ส่วนตัวชอบของ Mistine ทั้งสองตัวพอๆ กันเลย แต่ชอบกลิ่น Magic Blooms มากกว่านิดหน่อย รองมาก็ Dermapon เหมาะกับวันสบายๆ เพราะเป็นกลิ่นแบบเด็กๆ ส่วน Oriental Princess กลิ่นก็โอเคเลย หอมสบายๆ แต่แอบแพงกว่าตัวอื่นอยู่นะ สำหรับ Dance เราว่ากลิ่นแรงไป มันฉุนๆ อะ แต่ถ้าใครชอบน้ำหอมกลิ่นแน่นๆ อาจจะชอบ
เรื่องของความชุ่มชื้น จากการลองใช้ก็รู้สึกตามนี้เลยค่ะ Mistine Magic Blooms → Mistine Pretty Blooms → Dermapon → Oriental Princess → Dance ตามลำดับ (เรียงจากมากไปหาน้อย)
คุณภาพเมื่อเทียบกับราคา ที่ถูกสุดคือ Dance (69 บาท) ส่วนตัวไม่ค่อยเลิฟตัวนี้เท่าไหร่ เพราะกลิ่นแรงไป ตัวที่ชอบกลิ่นมากๆ ก็คือ Mistine 2 สูตร (89 บาท) กับ Oriental Princess (185 บาท) แต่ตัวหลังก็เกือบสองร้อยอยู่นะ ของมิสทีนนี่ราคาโอเคเลย ไม่ถึงร้อย ใช้ได้นานด้วย และตัวสุดท้าย Dermapon (95 บาท) ราคาพอๆ กับมิสทีน แพงกว่าจิ๊ดเดียว แต่เสียดายที่กลิ่นติดไม่ทน ก็ฟีลโลชั่นเด็กอะเนอะ
หากจะบอกว่าโลชั่นและน้ำหอมที่นำมาเปรียบเทียบนี้มีกลิ่นเหมือนกันเป๊ะๆ คงจะไม่ถูกนัก ทั้งนี้เป็นการเปรียบเทียบและเลือกน้ำหอมกลิ่นที่มีใกล้เคียงหรือแอบคล้ายกับกลิ่นของโลชั่นเท่านั้น ซึ่งโลชั่นที่เราเลือกมาล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ราคาหลักร้อย กลิ่นก็คงติดทนสู้แบรนด์ไฮเอนด์ราคาหลักพันไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าใครชอบกลิ่นของน้ำหอมนั้นๆ แต่อยากได้ของที่คล้ายกัน แนวเดียวกัน ในราคาที่ถูกลงมาหน่อยก็ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว
มีประสบการณ์เขียนบทความเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ ความงามมากว่า 3 ปี โดยเฉพาะบทความด้านความสวยความงามของสาวๆ จะสนใจมากเป็นพิเศษ และหากสงสัยว่าทำไมต้อง little nomad? 'nomad' หมายถึงกลุ่มคนที่เดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ใส่ 'little' เพิ่มเข้าไปเพื่อความน่ารักปุ๊กปิ๊ก เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ชอบเที่ยวมากกกก ซึ่งไม่ใช่แค่เที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่ยังหมายถึงการท่องโลกอินเทอร์เน็ตเพื่อตามเทรนด์บิวตี้ เรื่องสวยๆ งามๆ อีกด้วย นี่แหละค่ะคือเรื่องที่เราสนใจ ไม่ว่าจะเรื่องดูแลหุ่น ผิวพรรณ ทางเราลองผิดลองถูกมาเยอะแล้ว เลยอยากมาแชร์เพื่อนๆ กัน!