Now Reading
7 วิธีลบรอยสิวที่หลัง ใครหลังพัง ต้องซ่อมด่วนๆ!

7 วิธีลบรอยสิวที่หลัง ใครหลังพัง ต้องซ่อมด่วนๆ!

สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งแล้วนะคะ ไหนใครที่เป็นสิวที่หลังกันบ้าง? คงจะกังวลใจกันไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหม ก็แหมใครๆ ก็อยากจะมีแผ่นหลังที่สวยเนียนกันทั้งนั้นแหละเนอะ วันนี้พี่อะเครุเลยจะมาบอก 7 วิธีลบรอยสิวที่แผ่นหลังนั่นเองค่ะสาวๆ

สาเหตุที่ก่อให้เกิดสิวที่หลัง

มีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัยตั้งแต่กรรมพันธุ์ หรือพฤติกรรม แต่ส่วนใหญ่แล้วหลักๆ ก็มาจากพฤติกรรมบางอย่างของเรานั่นเอง ซึ่งก็มีด้วยกันหลายอย่างเลยนะคะ เช่น

  1. สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่ระบายอากาศได้ดี หรือใส่เสื้อผ้ารัดรูปจนเกินไป
  2. สารเคมีจากแชมพูสระผมตกค้างที่แผ่นหลัง
  3. ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยน
  4. ผลข้างเคียงจากการทานยา เช่น ยารักษาอาการซึมเศร้า

7 วิธีลบรอยสิวที่หลัง แผ่นหลังเนียนใส

อันที่จริงแล้ว การรักษารอยสิวก็มีอยู่มากมายหลายวิธี แต่ในวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีที่สามารถทำได้เองง่ายๆ และปลอดภัยต่อผิวของสาวๆ อย่างแน่นอนค่ะ

1. ใช้เกลือผสมน้ำมะนาวขัดผิว

วิธีง่ายๆ เพียงนำเกลือ (ใช้เกลือธรรมดาหรือจะเป็นเกลือสำหรับขัดผิวก็ได้ค่ะ) มาผสมกับน้ำมะนาวแล้วนำไปขัดบริเวณแผ่นหลังเบาๆ แล้วพักทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที พอครบแล้วก็ล้างออกได้เลยค่ะ ทำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็พอนะคะ เพื่อไม่ให้ผิวบอบบางเกินไป เพราะสูตรนี้ตัวน้ำมะนาวค่อนข้างมีฤทธิ์เป็นกรดสูงจะกัดผิวหนังได้ง่าย และเวลาที่ใช้สูตรนี้เพื่อนๆ อาจจะรู้สึกคันหรือแสบเบาๆ ที่แผ่นหลังสักหน่อย แนะนำว่าให้ลดปริมาณของน้ำมะนาวลงจะช่วยได้ แต่ว่าวิธีนี้มีข้อควรระวังอยู่ก็คือ เพื่อนๆ อาจจะต้องรักษาสิวให้หายซะก่อนไม่งั้นงานนี้อาจแสบจนน้ำตาไหลได้เลยทีเดียว

2. ทาเจลว่านหางจระเข้ทุกวัน

เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสาวๆ ที่มีผิวบอบบาง เพราะเจลว่านหางจระเข้จะมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยลดการระคายเคือง ช่วยลดรอยแดง รอยดำ และที่สำคัญยังช่วยสมานแผลให้หายไวยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็สามารถหาซื้อเจลว่านหางได้ง่ายแล้วนะคะ แต่ขอแนะนำสาวๆ ว่าให้เลือกตัวที่ไม่มีน้ำหอมจะดีกว่า เพราะเหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิวมากกว่าค่ะ โดยวิธีนี้เพื่อนๆ สามารถทำได้ทุกวันเช้า – เย็นได้เลยค่ะ

แนะนำ 3 ยี่ห้อเจลว่านหางจระเข้ใช้ดี

  1. Pharmacok’f Burnova Gel Plus ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
  2. Smooto Aloe-E Snail Bright Gel 99.5% ตัวนี้เป็นอีกตัวที่ถูกและดีมากๆ หาซื้อได้ง่ายราคาถูกสุดๆ สามารถใช้ได้กับผิวแพ้ง่าย
  3. Nature Republic Aloe Vera 92% Soothing & Moisture อีกหนึ่งตัวดังขึ้นชื่อจากประเทศเกาหลีใต้ ตัวนี้มีการผสมน้ำหอมนิดหน่อย แต่ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบางก็สามารถใช้ได้ คุณภาพคุ้มราคา

3. พอกผิวด้วยมะขามเปียก

อีกหนึ่งวัตถุดิบคู่ครัวไทยนะคะ นั่นก็คือมะขามเปียกนั่นเอง! ง่ายเพียงแค่เพื่อนๆ นำมะขามเปียกไปผสมกับน้ำเล็กน้อยให้ละลายเป็นครีมหนืดๆ แล้วก็เอามาทาหลังทิ้งไว้ 10 – 15 นาที แล้วล้างน้ำออกเท่านี้รอยสิวก็จะจางลงเรื่อยๆ แนะนำว่าให้ทำหลังอาบน้ำอาทิตย์ละ 2 ครั้งพอนะ เพราะมะขามเองก็มีฤทธิ์เป็นกรดอยู่พอสมควรทำบ่อยๆ ก็อาจจะกัดผิวได้ แต่วิธีนี้จะทำให้ผิวระคายเคืองน้อยกว่าสูตรเกลือมะนาวค่ะ

4. สครับด้วยสูตรเบกกิ้งโซตา

อีกหนึ่งผงสารพัดประโยชน์จริงๆ เลยนะคะ สำหรับเบกกิ้งโซดา สูตรนี้ก็ง่ายๆ หลังอาบน้ำก็ซับตัวให้หมาดๆ แล้วทาเบกกิ้งโซดาลงแล้วใช้มือขัดเบาๆ แล้วทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วล้างน้ำออกให้สะอาด เท่านี้เพื่อนๆ ก็จะมีแผ่นหลังที่เรียบเนียนและรอยสิวก็จะจางลงอีกด้วยค่ะ วิธีนี้ก็ขอแนะนำว่าให้ทำอาทิตย์ละ 2 ครั้งก็พอนะคะ ถ้าทำบ่อยกว่านี้เดี๋ยวผิวจะระคายเคืองและสิวจะลุกลามไปกันใหญ่นั่นเองค่ะ

5. ทาครีมลดรอยแผลเป็น

ถือเป็นวิธีที่แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากๆ เลยนะคะ เพราะวิธีนี้จะเห็นผลภายใน 2 สัปดาห์เลยทีเดียว ซึ่งเพื่อนๆ ก็สามารถไปเลือกซื้อครีมลดรอยแผลเป็นได้ตามร้านขายทั่วไปเลยค่ะ เพราะร้านขายจะมีคุณพี่เภสัชกรคอยให้คำแนะนำอยู่แล้วว่า ควรเหมาะกับยายี่ห้อไหน แต่อีกหนึ่งสิ่งที่สาวๆ ควรระวังกันเลยก็คือการจะทายาลดรอยแผลเป็นนั้นสาวๆ ควรจะรอให้สิวหายสนิทก่อน เพราะครีมรอยลดจำพวกนี้จะมีสารที่ทำให้อุดตันได้ด้วย ซึ่งถ้าสิวยังไม่หายดีทาลงไปอาจจะไปทำให้เกิดสิวอุดตันเพิ่มขึ้นได้ จากที่จะหายกลับกลายเป็นหนักกว่าเดิม

See Also

แนะนำ 3 ครีมลดรอยสิว แผลเป็นที่หลัง

  1. Hiruscar Gel ตัวนี้อัดแน่นไปด้วยสารนานาชนิด แต่ที่สำคัญก็คือ ใบบัวบกที่จะช่วยสมานแผลไม่ให้แผลเป็นหยาบกราบ และสีจางลงไว
  2. Smooth E Cream Plus White ขึ้นชื่อเรื่องการช่วยลดรอยแผลเป็น ตัวนี้จะมีวิตามินอี ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว อีกทั้งยังช่วยรักษาและฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ให้ไวยิ่งขึ้น
  3. Puricas Dragon’s Blood Scar Gel เป็นสูตรอ่อนโยนช่วยลดรอยดำและรอยแดงจากสิว อีกทั้งยังช่วยสมานแผลให้ไวยิ่งขึ้น

6. เลือกครีมอาบน้ำสำหรับผิวเป็นสิว

ถือเป็นวิธีที่แก้ปัญหากันตั้งแต่ต้นเหตุกันเลยนะคะ เพราะบางทีการที่เพื่อนๆ เป็นสิวที่หลังก็อาจจะเป็นเพราะแพ้ครีมอาบน้ำหรือแชมพูสระผมก็ได้ ทางที่ดีเราอาจจะต้องเปลี่ยนไปใช้สูตรที่อ่อนโยน ไม่ผสมน้ำหอม หรือจะเป็นพวกสบู่ออแกนิคก็ได้ค่ะ โดยครีมอาบน้ำประเภทนี้จะช่วยเรื่องการลดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายแบรนด์เลยทีเดียว ไปเลือกซื้อตามราคาและตามแบรนด์กันได้เลยค่ะ

แนะนำ 3 ยี่ห้อครีมอาบน้ำสำหรับผิวเป็นสิว

  1. CeraVe Foaming Cleanser ตัวนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการรักษาสิว เป็นสูตรอ่อนโยน ใช้แล้วไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
  2. The Body Shop Tea Tree Body Wash เป็นอีกหนึ่งตัวที่อุดมไปด้วยสารจากธรรมชาติ ช่วยยับยั้งเรื่องของแบคทีเรีย ล้างสิ่งสกปรกได้ดี
  3. Oxe Cure Body Wash PH 5.5 เป็นเจลอาบน้ำที่มีค่า PH เป็นกลางช่วยยับยั้งการเกิดสิว ตัวนี้อ่อนโยนใช้แล้วผิวไม่แห้งตึง

7. ดูแลความสะอาดเสื้อผ้าและเครื่องนอนให้ดี

วิธีนี้ใครหลายๆ คนอาจมองข้ามไป ซึ่งเพื่อนๆ ที่เป็นสิวที่หลังควรจะทำความสะอาดเครื่องนอนเดือนละ 2 ครั้ง และไม่สวมเสื้อซ้ำอย่างเด็ดขาด! เพราะสิ่งสกปรก เช่น เหงื่อ แบคทีเรีย จะไปทำให้เกิดสิวเพิ่มมากขึ้น หรือทางที่ดีเพื่อนๆ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้าและชุดเครื่องนอนที่อ่อนโยนต่อผิวจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดนะคะ

แนะนำ 3 ยี่ห้อน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน

  1.  Essence Liquid Detergent Pink ตัวนี้นอกจากจะอ่อนโยนแล้วกลิ่นยังหอมติดทนมากๆ และที่สำคัญเค้าไม่ทำลายเนื้อผ้าอีกด้วยนะคะ
  2. D-NEE Baby Liquid Detergent ยี่ห้อนี้อ่อนโยนสุดๆ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ซักผ้าสำหรับเด็กโดยเฉพาะ สาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายมั่นใจได้เลยว่าใช้แล้วไม่แพ้แน่นอน
  3. Baby Mind Organic Baby Fabric Wash With Softener อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็กสุดอ่อนโยน มีกลิ่นหอม ที่สำคัญตัวนี้เค้าเป็นทั้งน้ำยาซักและปรับผ้านุ่นในตัวด้วยเลยนะคะ

และนี่ก็เป็นวิธีที่เรานำมาฝากกันในวันนี้หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆ นะคะ เรื่องรอยแผลเป็นอาจจะต้องใช้เวลาในการดูแลรักษาสักหน่อย สาวๆ ก็อย่างพึ่งท้อและถอดใจไปนะ หมั่นดูแล ทาครีมบำรุงบ่อยๆ แค่นี้ทุกคนก็จะมีแผ่นหลังที่สวยเนียนใสได้แล้วล่ะค่ะ

ที่มาภาพ: stylecraze, net-a-porter, bathnbody, wp.me,
leaf.tv, medium, stealthelook, thepolishedjar, familyhandyman
View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top