ดูดไขมันอันตรายหรือไม่ ต้องระวังอะไรบ้าง!? จากข่าวเหตุการณ์ดูดไขมันแล้วเสียชีวิตที่ผ่านมาไม่นานนี้ สร้างความแตกตื่นให้แก่ผู้คนเป็นอย่างมาก วันนี้เราจะพาไปหาสาเหตุพร้อมตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูดไขมัน ซึ่งเป็นตัวเลือกหนึ่งของผู้ที่ต้องการลดสัดส่วน มีรูปร่างเฟิร์มกระชับ แบบเห็นผลเร็ว ว่าการดูดไขมันเป็นอย่างไร อันตรายไหม? วิธีดูดไขมันที่ปลอดภัยต้องทำอย่างไร? และเหมาะกับใคร? ไปร่วมหาคำตอบกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการศัลยกรรมดูดไขมันกันค่ะ
สารบัญ
ดูดไขมันอันตรายไหม ทำไมดูดไขมันแล้วเสียชีวิต?
ดูดไขมันจริงๆ อันตรายหรือไม่ ทำไมดูดไขมันแล้วเสียชีวิต? ต้นเหตุจริงๆ ของการดูดไขมันแล้วเสียชีวิตเป็นอย่างไร และอะไรคือความเสี่ยง วันนี้เราได้มาขอความรู้จากนพ. ทรงยศ จันทจิตร์ ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ผู้เชี่ยวชาญด้านเสริมหน้าอกและดูดไขมันอันดับต้นๆ ของไทย ปัจจุบันประจำที่ดรีมคลินิก (Dream Clinic-Thailand) มาตอบทุกข้อสงสัยที่คนสนใจเรื่องดูดไขมันอยากรู้ ตามไปดูกันว่าแท้จริงแล้วการดูดไขมันที่ปลอดภัยนั้นเป็นอย่างไร
Q: สาเหตุของการเสียชีวิตจากการดูดไขมันมีอะไรบ้าง?
นพ.ทรงยศ: สิ่งที่ทุกคนควรรู้ คือ การดูดไขมัน ทางการแพทย์ถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ แพทย์เฉพาะทางที่จบด้านนี้ต้องเป็นศัลยแพทย์ตกแต่ง ส่วนเคสดูดไขมันเสียชีวิตในไทยตามที่เป็นข่าว สาเหตุหลักที่พบมี 3 อย่าง ได้แก่
- ไม่ได้เป็นแพทย์เฉพาะทาง จึงไม่มีความรู้และชำนาญด้านสรีระ ทำให้แทงหัวดูดไขมันเข้าไปในช่องท้อง หรืออวัยวะอื่นๆ จนเกิดการเสียชีวิต
- การให้ยาระงับความเจ็บปวด หรือทำให้คนไข้หมดความรู้สึกเจ็บ ไม่มีวิสัญญีแพทย์ควบคุม ทำให้เกิดการแพ้ยา หรือช็อคจนเสียชีวิตได้
- การขาดเครื่องมือช่วยชีวิตในห้องผ่าตัด เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ไม่มีออกซิเจน เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า หรือยาที่ช่วยชีวิตต่างๆ โอกาสในการกู้ชีพคนไข้ก็มีต่ำขึ้น
Q: วิธีดูดไขมันที่ปลอดภัยตามหลักการแพทย์ต้องทำอย่างไร?
นพ.ทรงยศ: การดูดไขมันที่ปลอดภัยตามหลักการแพทย์ง่ายๆ มี 4 ข้อหลัก
- สำคัญที่สุด แพทย์ที่ทำการดูดไขมัน ควรเป็นศัลยแพทย์ตกแต่ง เพราะเรียนมาโดยตรง รู้หลักการที่ถูกต้องในการตรวจ เตรียมคนไข้และช่วยชีวิตคนไข้ได้ในกรณีฉุกเฉิน
- การทำให้หมดความรู้สึก ต้องเป็นการให้ยาสลบ โดยวิสัญญีแพทย์ ซึ่งมีข้อดีกว่าใช้ยาชาเยอะมาก ทำให้คนไข้ไม่เจ็บทรมาน ผลการดูดดี ไม่แหว่งเบี้ยว และสำคัญคือปลอดภัยไม่เสียชีวิต
- มีการตรวจสุขภาพก่อนทำ เช่น การตรวจร่างกาย ตรวจซักประวัติสุขภาพ ตรวจเลือด ความดัน โดยศัลยแพทย์ตกแต่งคนที่ทำต้องเช็กสุขภาพตรงนี้ด้วยตนเอง จนมั่นใจว่าคนไข้สามารถดูดไขมันได้ปลอดภัย
- สถานที่ทำต้องได้รับอนุญาตถูกต้อง สะอาด ปลอดเชื้อ และมีความน่าเชื่อถือ มีการให้ออกซิเจน และมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตครบ
Q: วิธีเลือกหมอหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน ต้องดูอะไร?
นพ.ทรงยศ: ในฐานะที่มีประสบการณ์ตรงนี้มามากกว่า 10 ปี หมอแนะนำให้ทุกคนที่ต้องการดูดไขมันควรทำ Check Lists เหล่านี้ว่าที่ๆ เราสนใจอยากใช้บริการดูดไขมันมีครบหรือไม่ อย่าเชื่อรีวิว หรือเห็นแก่ราคาโปรโมชั่น หรือความสวยงามของสถานที่เท่านั้น สิ่งที่ต้องเช็กมีดังต่อไปนี้ครับ
- แพทย์ที่ดูดไขมันชื่ออะไร เป็น ‘ศัลยแพทย์ตกแต่ง’ หรือไม่ โดยเราสามารถนำชื่อหมอไปพิมพ์หาว่าจบอะไรมา ได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภา >> checkmd.tmc อย่าเช็กจาก Google อย่างเดียว เพราะข้อมูลบิดเบือนมีเยอะ
- สถานพยาบาลที่ต้องการดูดไขมัน มีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ เป็นสถานพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งหรือไม่ เช็กสถานพยาบาลที่เปิดถูกต้อง >> privatehospital
- ก่อนผ่าตัดมีการตรวจสุขภาพที่เกี่ยวข้องหรือไม่ มีการตรวจเลือด การแพ้ยา ความดัน หรือแม้แต่ตรวจโควิด-19 หรือไม่
- คลินิกหรือสถานพยาบาลที่ไป ใช้วิธีการระงับความรู้สึก เป็นการให้ยาสลบโดยวิสัญญีหรือไม่
ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมันและใครบ้างที่ไม่เหมาะ
เราอาจเข้าใจและมีความเชื่อแบบผิดๆ ว่า “การดูดไขมันเหมาะกับคนอ้วนหรือคนที่มีน้ำหนักเยอะ” เท่านั้น ข้อเท็จจริงข้อนี้เป็นอย่างไร ใครบ้างที่เหมาะกับการดูดไขมันและใครบ้างที่ไม่เหมาะ คุณหมอขอให้คำตอบดังนี้ค่ะ
Q: ทำไมต้องดูดไขมัน การดูดไขมันเหมาะกับใคร?
นพ.ทรงยศ: จริงๆ หมอจะบอกตลอดว่าควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายก่อน จึงค่อยมาดูดไขมันเพราะการดูดไขมันนั้น เหมาะกับคนน้ำหนักตัวคงที่แล้วมากกว่าคนอ้วน (BMI>30) หรือน้ำหนักเพิ่มต่อเนื่อง เพราะการดูดไขมันเป็นการลดสัดส่วนเฉพาะจุด ที่ร่างกายลดเองไม่ได้ตามธรรมชาติ เช่น คนที่แขนใหญ่/ขาใหญ่โดยกรรมพันธุ์ คนที่ต้องการลดส่วนที่ยากมากๆ เช่น ปีกหลัง หลัง หรือหน้าอกผู้ชาย การดูดไขมันไม่เหมาะดูดทั้งตัวเพราะในการดูดแต่ละครั้ง จะดูดได้สูงสุดไม่เกิน 10 ลิตร ดังนั้นควรเลือกจุดที่อยากกำจัดมากที่สุดจะเห็นผลกว่าครับ
Q: ใครที่ยังไม่ควรดูดไขมัน?
นพ. ทรงยศ: สำหรับคนที่ไม่ควรดูดไขมัน หรือ ไม่จำเป็นต้องดูด หมอมีเกณฑ์การพิจารณาดังนี้ครับ
- คนที่มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการผ่าตัด และการฟื้นตัวหลังทำ เช่น โรคความดันสูงมาก โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคเบาหวาน โรคเลือดบางชนิด โรคแพ้ภูมิตัวเอง
- คนที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หรืออ้วนมาก (BMI > 30) เพราะในการดูดแต่ละครั้ง จะดูดได้สูงสุดไม่เกิน 10 ลิตร ดังนั้นหากน้ำหนักยังคงเพิ่มไม่หยุด ดูดไขมันแล้วก็จะกลับมาอ้วนอีก เนื่องจากเป็นการลดสัดส่วนเฉพาะจุด จึงเหมาะกับคนที่ควบคุมน้ำหนักคงที่ แต่มีบางส่วนที่ร่างกายไม่สามารถลดได้เองตามธรรมชาติ
- คนที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย เพราะหลังการดูดไขมันจะยิ่งทำให้เห็นความหย่อน แม้จะมีเครื่องมือที่ช่วยยกกระชับหลังดูดแต่ก็ตึงขึ้น 30-50% เท่านั้น
- คนที่ไม่มีเวลาดูแลตนเองหลังทำ ในการศัลยกรรมทุกอย่างต้องปฏิบัติตนทั้งก่อนและหลังตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อผลการรักษาที่ดี ควรมาตรวจตามแพทย์นัด เพื่อเช็กพังผืดหรือน้ำคั่งว่ามีหลังทำหรือไม่ อย่าทำเสร็จแล้วหายไปเลย
Q: วิธีเตรียมตัวก่อนและหลังดูดไขมัน
นพ.ทรงยศ:
ก่อนดูดไขมัน ควรงดวิตามิน อาหารเสริมทุกชนิดเพราะมีส่วนทำให้เลือดหยุดยาก แจ้งประวัติสุขภาพกับแพทย์ตามจริง และตรวจสุขภาพ ตรวจเลือดว่าสามารถดูดไขมันอย่างปลอดภัยหรือไม่ ไม่ควรบริจาคเลือด สูบบุหรี่ 1 เดือนก่อนทำ ก่อนผ่าตัดควรทำความสะอาดเล็บ และถอดเครื่องประดับให้เรียบร้อย
หลังดูดไขมัน ทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง ทานอาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารดิบ อาหารหมักดอง และอาหารรสจัด งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ จนกว่าจะตัดไหม และใส่ชุดกระชับหลังทำ 24 ชม. อย่างน้อย 1-2 เดือน เพื่อการฟื้นตัวของรูปร่างอย่างรวดเร็ว
การดูดไขมันที่ดีที่สุดทางการแพทย์ในปัจจุบันเป็นแบบใด
การดูดไขมันแบบเก่า vs การดูดไขมันแบบใหม่แตกต่างกันอย่างไร ปัจจุบันมีเทคโนโลยี หรือ นวัตกรรมสมัยใหม่แบบไหนที่ช่วยทำให้การดูดไขมันปลอดภัย เป็นธรรมชาติ ลดอาการเจ็บปวด พักฟื้นไม่นาน และเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ถ้าอยากรู้แล้วตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ
Q: การดูดไขมันที่ดีควรเป็นอย่างไร มีวิธีอะไรบ้าง?
นพ.ทรงยศ: ในทางการแพทย์ปัจจุบันถือว่า การดูดไขมันเป็นการลดสัดส่วนที่ดีที่สุด หรือ Golden Standard เพราะวัดผลได้ชัดเจน มีความปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ส่วนการดูดไขมันที่นิยมในปัจจุบัน โดยเฉพาะประเทศแถบเอเชีย คือ “การดูดไขมันแบบซ่อนแผล” เนื่องจากไม่ต้องการให้เห็นแผลเป็นจำนวนมากหลังดูดไขมัน เพราะคนเอเชียและคนผิวสี มีโอกาสเป็นแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ (keloid) ง่ายกว่าคนผิวขาวมาก
Q: เครื่องมือชนิดไหนเหมาะกับการดูดไขมัน?
นพ.ทรงยศ: ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ใช้ช่วยสลายไขมันขณะดูดเป็นจำนวนมาก ทั้งการใช้คลื่นวิทยุ คลื่นอัตราซาวด์ พลังงานน้ำ พลังงานสั่น ฯลฯ แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน แต่เทคโนโลยีที่นิยมสูงสุดทั่วโลก คือการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ช่วยสลายไขมัน เพราะได้ไขมันปริมาณมาก ปลอดภัยสูง ทั้งต่อแพทย์และคนไข้ในระยะยาว นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการหดของคอลลาเจนใต้ชั้นผิว จึงยกกระชับผิวไปในตัว
Q: การดูดไขมันแบบ “Vaser Hidef ซ่อนแผล” เป็นอย่างไร?
นพ.ทรงยศ: เป็นการดูดโดยใช้คลื่นอัลตราซาวด์ช่วยสลายไขมัน ด้วยเครื่องที่เรียกว่า VASER และดูด 2 ชั้นในทีเดียว คือแพทย์จะดูดไขมันชั้นลึกที่มีปริมาณมากก่อน จากนั้นจะทำการดูดไขมันชั้นตื้นเพื่อเก็บรายละเอียดสัดส่วนให้คมชัด และยกกระชับผิวจุดนั้นๆ เป็นการดูดที่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น ทำ Sixpack ในผู้ชาย หรือการสร้างร่องกล้ามเนื้อท้อง (Sexy Line) ส่วนการซ่อนแผลนั้น หมอจะใช้การเปิดจุดเจาะเพียงจุดเดียวในร่มผ้า ทำให้หลังทำไม่มีแผลให้เห็นเลย คนไข้สามารถโชว์สัดส่วนได้มั่นใจ ซึ่งเป็นเทคนิคที่คิดโดยแพทย์ที่เกาหลี เพื่อแก้ปัญหาแผลเป็นจำนวนมากแบบการดูดไขมันทั่วๆ ไปซึ่งรักษาไม่หาย จึงเรียกว่า “การดูดไขมัน Hidef ซ่อนแผล“
Q: ถ้าดูดไขมันแล้วพลาดจากที่อื่น คุณหมอแก้ไขได้ไหม?
นพ.ทรงยศ: ปัญหาดูดไขมันที่มักพบ คือ ดูดแล้วไม่เรียบ แหว่ง เป็นคลื่น ซึ่งเกิดจากแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ หรือใช้ยาชา ทำให้คนไข้เจ็บและดิ้นขณะดูด ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการดูดเกลี่ยใหม่ทั้งหมด ส่วนอีกปัญหาที่มักพบ คือ ดูดไม่หมด แล้วไม่สามารถดูดออกอีกได้ เกิดจากร่างกายสร้างพังผืดหลังทำ แพทย์แก้ไขได้โดยใช้เครื่องมือพิเศษตัดพังผืดพร้อมดูดเกลี่ยใหม่ กรณีที่พบรองลงมาแต่แก้ยากมาก คือดูดตื้นเกินไปจนเป็นหลุม ต้องใช้ไขมันจากส่วนอื่นมาเติม และดูดเกลี่ยใหม่หมด
อย่างไรก็ตามงานแก้ดูดไขมันมักมีราคาแพงมาก เพราะต้องใช้แพทย์เฉพาะทางที่มีเครื่องมือเฉพาะ ดังนั้นแนะนำให้เลือกแพทย์ดูดไขมันให้ดีตั้งแต่ต้น จะได้ผลลัพธ์ที่ดีคุ้มค่าเงินครับ
รีวิวเคสดูดไขมันที่ ‘Dream Clinic’
ที่ดรีมคลินิก (Dream Clinic) มีทั้งเคสดูดไขมัน และเคสแก้ไขการดูดไขมันพลาดมาจากที่อื่น เช่น ขาแหว่ง เป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน ด้วยเครื่อง Vaser-HD ได้ไขมันมาก ช้ำน้อย หายไว โดยใช้เทคนิค “การดูดไขมันซ่อนแผล” ที่ให้ผลลัพธ์แบบธรรมชาติ ซ่อนรอยแผลได้อย่างแนบเนียน ต่อไปนี้คือเคสรีวิวดูดไขมันที่เราจะพาไปดูกันเพื่อเป็นตัวเลือกไว้ประกอบการพิจารณาของผู้ที่สนใจดูดไขมัน/แก้การดูดไขมันพลาดกันค่ะ
ช่องทางติดต่อ Dream Clinic
- เวลาเปิดทำการ: เปิดบริการทุกวัน 9.30-19.30 น.
- เบอร์ติดต่อ: 02-6939911, 091-9155-222
- Line: @Dreamclinic
- Facebook: DreamClinicOfficial
- Instagram: dreamclinic_official
- Website: clinicdream
- ที่อยู่: ติดสถานีรถไฟฟ้ารัชดาภิเษก ทางออกที่ 1 เลขที่ 257/9 ถ.รัชดาภิเษก ดินแดง กทม. 10400
การศัลยกรรมไม่ว่าจะทำจุดไหนก็ตาม จะใหญ่หรือเล็กน้อย เราก็ต้องศึกษาข้อมูลและสิ่งที่ควรรู้แต่เนิ่นๆ อยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยทั้งในชีวิตและสุขภาพระยะยาว ดังนั้นการเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ดี มีคุณภาพ ใช้นวัตกรรมใหม่มีชัยไปกว่าครึ่ง หวังว่าความรู้เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมด้วยวิธีดูดไขมัน จะเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วพบกับสาระดีๆ กันใหม่ในบทความหน้าค่ะ
Beauty & Lifestyle Content Editor / Bibliophile / Food Lovers นักสะสมก้อนเมฆ ท้องฟ้า ดอกไม้ และการเปลี่ยนผ่านของฤดูกาล สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับ Art & Culture อาหารการกิน ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ธรรมชาติ สกินแคร์ และเครื่องสำอาง ชอบชีวิตที่เงียบสงบ แต่ออกไปเวิร์คช็อปบ้างเป็นครั้งคราว