Now Reading
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น!! เมื่อฉันเลิกดื่มกาแฟนาน 1 เดือน

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น!! เมื่อฉันเลิกดื่มกาแฟนาน 1 เดือน

เรื่องราวเริ่มต้นจากคืนหนึ่งที่ฉันนอนดึกเป็นปรกติเช่นทุกๆ วัน ฉันเป็นคนชอบดื่มกาแฟมากจนเริ่มสงสัยว่า ‘ถ้าไม่ได้ดื่มกาแฟ ฉันจะได้พักผ่อนมากกว่านี้ไหมนะ?’

คนส่วนใหญ่พักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอ ซึ่งดร. Christopher Drake ผู้อำนวยการวิจัยเรื่องการนอนหลับที่โรงพยาบาล Henry Ford กล่าวว่า การอดนอนเพียง 1 ชั่วโมงนั้นไม่ได้ทำลายชีวิตของใคร แต่เมื่อสะสมไปเรื่อยๆ คุณจะอยู่ในภาวะจำกัดการนอนเรื้อรัง ซึ่งการดื่มคาเฟอีนก็ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ เพียงแต่จะช่วยบรรเทาความง่วงได้เท่านั้น แต่ร่างกายก็ยังต้องการการนอนหลับที่เท่าเดิมอยู่ดี

แต่อย่างไรก็ตามกาแฟไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณเท่านั้น เพราะมีการวิจัยพบว่าการดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะสามารถช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคหัวใจ โรคพาร์คินสัน และโรคเบาหวาน เช่นเดียวกันกับสิ่งต่างๆ ค่ะ คือควรบริโภคแต่พอดีและใส่ใจกับสุขภาพด้วย

มาพูดถึงในส่วนของการเลิกคาเฟอีนกันบ้าง การที่จะเลิกคาเฟอีนได้นั้นควรปรึกษากับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อการรักษาที่ถูกต้องและสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการรักษาคือจะต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเลิกคาเฟอีน!! (นี่ฉันอยู่จนถึงตี 2 โดยไม่มีกาแฟในมือได้ยังไงกันเนี่ย?)

การนอนหลับ

จากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าฉันมีนิสัยการนอนที่แย่มากๆ  ซึ่งนี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ฉันคิดอยากเลิกดื่มกาแฟ ฉันคาดว่าการเลิกดื่มกาแฟจะทำให้เข้านอนได้เร็วยิ่งขึ้น แต่ฉันก็หวังแค่เพียงนิดหน่อยเท่านั้นแหละ เพราะฉันเป็นโรคนอนไม่หลับมานานแล้ว เลยคิดว่าการเลิกดื่มกาแฟแค่วันเดียว มันไม่ได้ทำให้อะไรๆ ดีขึ้นได้หรอก แต่ฉันคิดผิด! เพราะเกือบทั้งเดือนฉันเข้านอนเร็วมาก หลับก่อนจะปิดไฟเสียด้วยซ้ำ แถมไม่ตื่นกลางดึกเลยด้วย แม้แต่ในวันที่มีเรื่องให้คิดมากก็ยังนอนหลับได้เร็วเลย

การเข้านอนเร็วและได้นอนวันละ 8 ชั่วโมง บวกกับการไม่แตะคาเฟอีนเลย ส่งผลให้ฉันตื่นเช้ามาก แถมยังรู้สึกหิวและเหนื่อยเร็วขึ้นอีกด้วย

สุขภาพ

ฉันปวดหัวมากจนถึง 10 โมงกว่าๆ ในวันแรกของการงดคาเฟอีน ร่างกายก็เอาแต่บอกว่าให้เติมกาแฟเข้าไปเดี๋ยวนี้! ฉันปวดหัวจนลามไปถึงปวดท้องเลยล่ะ

การเลิกดื่มกาแฟทำให้ฉันเคยชินกับอาการคลื่นไส้ ฉันรีบเข้านอนตั้งแต่ 1 ทุ่มเพื่อหลีกหนีความรู้สึกแย่ๆ นี้ ยกเลิกนัดกับเพื่อนๆ ทั้งหมด ทาเปปเปอร์มิ้นต์บาล์มที่หลังคออย่างทุลักทุเล ตามด้วยการดื่มน้ำเยอะๆ

หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งเดือนอาการปวดหัวก็ทุเลาลงเป็นอย่างมาก แต่ช่วง 15 วันที่ผ่านมานี้ถือเป็นช่วงที่หนักสุดๆ ในชีวิตเลยล่ะ หมอบอกว่าความดันโลหิตของฉันต่ำลง แถมฉันยังรู้สึกได้ว่าฉันปล่อยวางความกังวลได้เร็วขึ้นแต่ก็ไม่ถึงกับไม่เครียดเลยนะ และแล้วในส่วนของครึ่งเดือนหลังฉันรู้สึกดีขึ้นมากๆ แม้จะยังรู้สึกปั่นป่วนอยู่นิดๆ แต่มันก็น่าจะเป็นอาการที่ฉันเป็นอยู่แล้วนั่นแหละ

back.vsebolezni

ผลกระทบ

โดยปรกติฉันเริ่มทำงานตั้งแต่ 8.30-17.00 น. จากนั้นก็ทานอาหารเย็น แล้วกลับมาเขียนงานต่อ ช่วงที่ดื่มกาแฟฉันทำงานเสร็จเร็วมาก แต่ในระหว่างที่งดกาแฟฉันรู้สึกเหนื่อยและไม่มีแรงบันดาลใจใดๆ เลย จากที่เคยชอบเขียนก็มองว่ามันเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ เมื่อก่อนใน 1 ปีมีวันที่ฉันไม่เขียนงานไม่ถึง 10 วัน แต่ภายใน 1 เดือนนี้มันตรงข้ามกันเลย ฉันเขียนงานได้น้อยมากๆ เอาแต่เดินขึ้นลงบันได เหมอมองไปนอกหน้าต่าง และหยิบแผ่นข้าวโพดอบกรอบเข้าปากทั้งวัน ไม่มีสมาธิจะทำอะไรเลย

ค่าใช้จ่าย

ฉันเริ่มสงสัยว่าตัวเองหมดเงินไปเท่าไหร่กับคาเฟอีน เลยทำการตรวจสอบจาก Statement และสรุปได้ว่าในเดือนสิงหาคม ฉันและสามีเสียค่ากาแฟไป $35  (ประมาณ 1,142 บาท) ที่ดังกิ้น โดนัท $5.18 (ประมาณ 169 บาท) ที่สตาร์บัค และเสียค่าเครื่องดื่มผสมคาเฟอีนที่ร้านอาหารต่างๆ ไป $126  (ประมาณ 4,109 บาท) แถมยังเสียค่าไดเอทโค้กอีกประมาณ 522 บาท ทั้งหมดนี้คือรวมทั้งของฉันและสามี เมื่อหารกันก็ตกเหลือคนละ $ 122.58 หรือ 3,997 บาทเลยทีเดียว

และทั้งหมดนี้คือรายการของที่ฉันไม่ได้ซื้อเลยในช่วง 30 วันที่งดคาเฟอีน ซึ่งทำให้ฉันประหยัดได้มากถึง $107 หรือ 3,490 บาท

  • กาแฟ
  • ชา (ยกเว้นชาที่ช่วยในเรื่องการนอนหลับ)
  • น้ำอัดลม
  • กาแฟ Decaf (กาแฟคาเฟอีนต่ำ)
  • ช็อกโกแลต

 

จากการงดคาเฟอีนในช่วง 1 เดือนจะเห็นได้ว่านอนหลับได้เร็วขึ้นและหลับสนิท ในช่วงแรกๆ จะส่งผลให้ปวดหัวและปวดท้อง รู้สึกเหนื่อย และสมองไม่ค่อยแล่น แต่ช่วงครึ่งเดือนหลังอาการก็จะดีขึ้น  ในส่วนของเรื่องเงินเมื่อเลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก็สามารถประหยัดรายจ่ายได้เยอะมาก ราว 3,000 บาทเลยทีเดียว เห็นไหมคะว่าการเลิกดื่มกาแฟนั้นทำให้ร่างกายดีขึ้นจริงๆ ใครติดกาแฟก็ลองทำตามดูนะคะเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง

ที่มา: refinery29
View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top