ผมแห้งเสียผมชี้ฟูเป็นปัญหาใหญ่ของสาวๆ หลายคนเลยใช่ไหมเอ่ย? ซึ่งปัญหาผมแห้งเสียนั้นนับว่าทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ เพราะผมไม่สวยเลยทำให้ไม่ว่าจะทำผมทรงไหนก็ยากไปซะหมด และปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากการที่เราไม่ดูแลหนังศีรษะและเส้นผมให้ดี ขาดการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี หรือปล่อยปละละเลยให้เส้นผมถูกความร้อนโดยตรงบ่อยๆ จนผมพัง! แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะวันนี้พี่อะเครุจะมาแชร์วิธีรักษาและบำรุงผมแห้งเสียมาก พร้อมแชร์ไอเทมบำรุงเส้นผมตัวเด็ด รับรองว่าผมของทุกคนจะกลับมานุ่มสวย มีน้ำหนัก และไม่ชี้ฟูแน่นอน
สารบัญ
คุณรู้จักปัญหาผมแห้งเสียมากแค่ไหน?
ก่อนอื่นเราจะมาอธิบายปัญหาผมแห้งเสียที่หลายคนมักเป็นกันก่อน ผมแห้งเสียจะมีลักษณะของเส้นผมที่ไร้น้ำหนัก เนื่องจากขาดความชุ่มชื้นของเส้นผม เพราะน้ำมันธรรมชาติในเส้นผมได้ถูกทำลายไป ทำให้ความชุ่มชื้นบนเส้นผมลดน้อยลง ส่งผลให้สุขภาพของเส้นผมเสีย มีปัญหาชี้ฟูและไร้น้ำหนัก
โดยปกติแล้ว ความชุ่มชื้นของเส้นผมที่สุขภาพดีควรอยู่ที่ 10% แต่หากความชุ่มชื้นมีระดับที่ต่ำกว่านี้ย่อมหมายถึงเส้นผมมีสุขภาพไม่ดี ที่มา : honestdocs
ผมแห้งเสียและชี้ฟู เกิดจากอะไร?
ต่อมาเราก็ต้องทำความเข้าใจว่าผมแห้งเสียหรือผมชี้ฟูนั้นเกิดได้อย่างไรและมีสาเหตุจากอะไรบ้าง เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยผมแห้งเสียเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
- สระผมบ่อยและใช้น้ำอุ่นสระผม
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการสระผมบ่อยๆ จะทำให้ผมสุขภาพดี สะอาด แต่แท้จริงแล้วการสระผมบ่อยเป็นการทำลายน้ำมันบนหนังศีรษะและเส้นผม ทำให้หนังศีรษะแห้งกว่าเดิม และยิ่งใครที่ชอบสระผมด้วยน้ำอุ่นก็จะยิ่งทำให้ผมแห้งเสียเพราะเสียความชุ่มชื้น รวมถึงก่อให้เกิดรังแคอีกด้วย
- ใช้ความร้อนกับเส้นผมมากเกินไป
ใครที่ชอบหนีบผม ม้วนผม หรือไดร์ผมให้แห้งเป็นประจำ ควรหยุดก่อน!! เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะยิ่งทำลายเกล็ดผมให้หลุดลอก ทำให้ผมแห้งเสียและชี้ฟูหนักกว่าเดิม
- แสงแดดก็เป็นตัวการสำคัญ
ยิ่งสภาพอากาศบ้านเราร้อนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นตัวทำลายเส้นผมมากเท่านั้น เพราะรังสีอัลตร้าไวโอเลตจะเป็นตัวที่ทำให้ผมแห้งเสียยิ่งขึ้นนั่นเอง
- ใช้สารเคมีกับเส้นผมซ้ำๆ
สำหรับคนที่ชอบย้อมผม ยืดผม หรือดัดผม เปลี่ยนทรงผม 7 วัน 7 ทรง ควรพักก่อน เพราะสารเคมีในน้ำยาต่างๆ จะยิ่งเป็นตัวการทำให้เกล็ดที่ปกคลุมเส้นผมหลุดลอกออกไป ทำให้ยิ่งแห้งเสียและชี้ฟู
5 วิธีรักษาผมเสียมาก ชี้ฟู ให้กลับมานุ่มลื่นมีน้ำหนัก
หลังจากทราบสาเหตุของผมแห้งเสียกันคร่าวๆ แล้ว ต่อไปมารู้ลึกถึงวิธีการรักษาผมแห้งเสียชี้ฟูกันต่อเลยโดยเรามีมาแนะนำถึง 5 วิธีด้วยกัน ใครๆ ก็สามารถนำไปใช้ดูแลรักษาเส้นผมเองได้ง่ายๆ ไปลุยกันเลย!
#1 หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนโดยตรงกับเส้นผม
ความร้อนจากเครื่องเป่าผม ไดร์เป่าผม หรือที่หนีบผม เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่จะทำให้ผมแห้งเสียและแตกปลายเร็วขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนโดยตรงกับเส้นผม และเป่าผมให้แห้งโดยธรรมชาติแทน หรือใครที่หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผมไม่ได้จริงๆ แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อน เช่น ออยล์บำรุงผม มาชโลมลงบนเส้นผมก่อนการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อสร้างเกราะให้เส้นผมแข็งแรงมากขึ้นและลดโอกาสที่ผมจะเสียจากความร้อน
#2 เลือกแชมพูหรือครีมนวดที่เหมาะกับสภาพเส้นผม
ผมเสียมากใช้อะไรดี?? การเลือกแชมพูหรือครีมนวดผมที่เหมาะกับสภาพเส้นผมเป็นวิธีที่ใกล้ตัวที่สุด และสามารถรักษาผมแห้งเสียได้ เพราะแต่ละสภาพเส้นผมล้วนเจอกับปัญหาผมที่ต่างกัน และหากเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สภาพเส้นผมของเรา ปัญหาผมแห้งเสียก็จะไม่ตามมาหรือดีขึ้นได้เร็ว เรามีทริคการเลือกแชมพูและครีมนวดผมที่เหมาะกับสภาพเส้นผมแต่ละแบบมาฝากกันด้วยค่ะ
- สภาพเส้นผมปกติ สำหรับคนที่มีสภาพผมไม่มันและไม่แห้ง สามารถเลือกแชมพูหรือครีมนวดได้หลากหลายประเภทหรือเลือกแบบที่มีส่วนผสมของวิตามินต่างๆ ตามที่ต้องการได้เลย เพราะเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับผมมานัก
- สภาพเส้นผมแห้ง สำหรับคนที่มีปัญหาผมแห้งเสียมากถึงหนักมาก ควรเลือกแชมพูหรือครีมนวดที่มีส่วนประกอบของโปรตีนเป็นหลัก เช่น ส่วนผสมของอัลมอนด์ หรือเมล็ดถั่วเขียว
- สภาพเส้นผมมัน สำหรับคนที่มีปัญหาผมมัน หนังศีรษะมัน ผมลีบแบนและเสีย ควรเลือกแชมพูหรือครีมนวดสำหรับสูตรผมมันโดยเฉพาะ หรือเลือกสูตรอ่อนโยน เพราะคนมีปัญหาหนังศีรษะและผมมันจะอ่อนแอกว่าสภาพผมอื่นๆ
- สภาพเส้นผมเสีย สำหรับคนที่มีปัญหาผมแห้งเสีย ควรเลือกแชมพูหรือครีมนวดสูตรอ่อนโยน และมีคุณสมบัติเป็นด่าง เนื่องจากผมถูกสารเคมีทำร้ายมาเยอะแล้วจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารเคมีในปริมาณมาก
#3 ใช้ทรีทเม้นท์บำรุงผมแห้งเสีย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
อีกวิธีดูแลและฟื้นฟูผมเสียชี้ฟูได้อย่างรวดเร็วก็คือ การใช้ทรีทเม้นท์บำรุงผมแห้งเสียที่เราสามารถทำได้เอง และถ้าเลือกทรีทเม้นท์ดีๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซาลอนแพงๆ อีกต่อไปเลย โดยทรีทเม้นท์ที่เราจะแนะนำสาวๆ คือตัวนี้ LOLANE Natura Hair Treatment ครีมหมักผมกระปุกเขียวในตำนาน สูตรสำหรับผมแห้งเสีย เน้นบำรุงให้ผมมีน้ำหนัก จัดทรงง่าย ไม่ชี้ฟู ที่ยกตัวนี้มาเพราะเป็นทรีทเม้นท์ที่หาซื้อง่ายมาก ในเซเว่นก็มี และที่สำคัญราคาย่อมเยา ใครๆ ก็ซื้อใช้ได้สบาย
LOLANE Natura Hair Treatment
ใครที่เคยเห็นเจ้าตัวนี้ผ่านตา น่าจะเอะใจหน่อยๆ ว่ากระปุกมันไม่เหมือนเดิม! และใช่ค่ะ เพราะเค้าเพิ่งเปลี่ยนแพ็กเกจไปสดๆ ร้อนๆ ใครเห็นไม่ต้องแปลกใจ มันคือตัวเดียวกันจ้า แต่นอกจากแพกเกจแล้ว ที่ต่างจากเดิมอีกก็คือทรีทเม้นท์ข้างใน เพราะเค้าเพิ่มไบโอติน (BIOTIN) หรือ Vitamin B7 เข้าไปด้วย แล้วไบโอตินที่ว่านั้นทำให้ดีกว่าของเก่ายังไงกันนะ?
ไบโอตินมีส่วนช่วยให้รากผมและเส้นผมแข็งแรง ป้องกันผมร่วง และเป็นสารตั้งต้นสำคัญในการสร้างเซลล์ใหม่ ช่วยให้เส้นผมไม่แห้งเสียและกลับมาสุภาพดี นอกจากนี้ครีมหมักผมโลแลนยังมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติต่างๆ ได้แก่ โจโจ้บาออยล์ ช่วยทำให้ผมนุ่มลื่นจัดทรงง่าย และโปรตีนจากรังไหม ช่วยฟื้นฟูผมที่แห้งเสียอีกด้วย
เนื้อครีมของตัวนี้จะเข้มข้นมาก เกาะผมได้ดี มีกลิ่นหอม ไม่ค่อยไหลเยิ้มด้วยนะ ส่วนวิธีใช้ทรีทเม้นท์ LOLANE Natura ให้เห็นผลดี แนะนำให้ใช้ทรีทเม้นท์หลังจากสระผมด้วยแชมพู จากนั้นชโลมทรีทเม้นท์ให้ทั่วเส้นผม เน้นบริเวณปลายผมที่แห้งเสีย ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ตัวนี้สามารถใช้แทนครีมนวดได้เลย รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกเลยว่าปลายผมนุ่มลื่นขึ้น สางง่ายไม่พันกัน ทั้งนี้หากจะหมักผม แนะนำให้หมักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือใช้แทนครีมนวดทุกวันได้เลย แล้วผมจะค่อยๆ กลับมานุ่มสวย ไร้ปัญหาผมแห้งเสีย สามารถหาซื้อได้ที่ 7-11, Tops, Gourmet Market, ซุปเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
#4 ใช้หวีหรือแปรงผมอย่างถูกวิธี
คนที่มักหวีผมหรือแปรงผมอย่างรุนแรงให้เปลี่ยนวิธีการหวีใหม่ โดยเริ่มจากหวีบริเวณโคนผมก่อน แล้วไล่ไปยังปลายผมอย่างเบามือ ไม่กระชากเส้นผม การหวีผมจากบนลงล่างจะช่วยกระจายน้ำมันจากหนังศีรษะไปหล่อเลี้ยงเส้นผมส่วนปลาย ทำให้เส้นผมทุกเส้นได้รับการบำรุงอย่างทั่วถึง ทั้งนี้การดูแลรักษาความสะอาดพวกอุปกรณ์หวีต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ พยายามสางผมที่หวีออกเป็นประจำ เพื่อป้องกันการเกิดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนเส้นผมของเราสะสม
#5 เว้นระยะการทำเคมีกับเส้นผมซ้ำซ้อน
การเปลี่ยนสีผมหรือเปลี่ยนทรงผมด้วยการดัดหรือยืดสามารถช่วยให้เสริมบุคลิกให้เราดูดีได้ก็จริง แต่ก็เป็นการทำลายสุขภาพเส้นผมของเราให้แย่ลงไปด้วย เพราะการทำเคมีกับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นการดัด ยืด หรือย้อมสีล้วนเป็นตัวทำลายพันธะโปรตีนบนเส้นผมให้ผิดรูปทั้งสิ้น และจะทำให้กลับมาสภาพคงเดิมยาก
ดังนั้นควรเว้นทำเคมีห่างกันประมาณ 3 เดือน เพื่อไม่ให้เส้นผมสูญเสียเคราตินมากเกินไป หรือใครที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงกิจกรรมเหล่านี้ได้จริงๆ ให้เลือกผลิตภัณฑ์ดัดหรือย้อมผมที่มีส่วนผสมของธรรมชาติร่วมด้วย เพื่อช่วยถนอมเส้นผมของเราให้สุขภาพดีอีกทางหนึ่ง
ผมแห้งเสียชี้ฟูอาจฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติยาก แต่ถ้าใครที่ต้องการให้ผมกลับมานุ่มลื่นโดยด่วน แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เน้นการดูแลผมเสียโดยตรงอย่างทรีทเม้นท์ดูนะคะ และทำตามคำแนะนำอื่นๆ ร่วมด้วย เชื่อว่าในระยะยาวผมของสาวๆ ทุกคนจะต้องกลับมามีสุขภาพ นุ่มสลวย จนใครๆ ต้องเหลียวมองแน่ๆ