นอกจากจะเสื้อผ้าและกระเป๋าแล้ว รองเท้าก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงอย่างเรายกให้เป็นอีกหนึ่งแฟชั่นไอเทมเลยก็ว่าได้ แต่ว่ารองเท้านั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ วันนี้เราจะมาพูดถึงรองเท้าส้นสูงกัน ปัญหาหลักของการใส่ส้นสูงก็คือปวดเท้าและสามารถเป็นปัญหาสุขภาพระยะยาวได้ ถ้าอย่างนั้นเรามารู้จักกับส้นสูงแต่ละแบบเพื่อเลือกสิ่งที่เหมาะและความสบายให้กับเท้าเรากันดีกว่า
รองเท้าส้นสูงแต่ละแบบมีลักษณะอย่างไร อันไหนใส่แล้วสบาย
รองเท้าส้นสูงถือว่าเป็นไอเทมสำคัญในชีวิตประจำวันของสาวๆ ทุกคนเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะออกเดต ไปงานอีเวนต์ พบปะสังสรรค์ หรือแม้กระทั่งวันทำงาน เราล้วนแล้วแต่ใช้ชีวิตกับรองเท้าส้นสูงตลอด เพราะว่าเป็นสิ่งที่สร้างบุคลิกภาพและความมีภูมิฐานให้กับตัวเรา แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลายครั้งก็ต้องเจ็บเท้าและปวดขา มากไปกว่านั้นยังสามารถเป็นโรคหมอนรองกระดูกได้อีกด้วย วันนี้พี่อะเครุจึงอยากจะพาทุกคนมารู้จักกับส้นสูงแต่ละแบบ เพื่อเลือกแบบที่สบายให้กับตัวเอง จะได้ไม่ต้องทนสวยแบบเจ็บๆ อีกต่อไปปปป
1. รองเท้าคัทชูส้นเข็ม (Stiletto)
เมื่อเห็นรูปภาพแล้วพี่อะเครุเชื่อว่าทุกคนต้องคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีกับรองเท้าส้นสูงรูปแบบนี้ รองเท้าคัทชูส้นสูงมีลักษณะหัวรองเท้าแหลม มักไม่เสริมพื้นด้านหน้า ส้นเป็นส้นเข็ม ส่วนใหญ่จะมีความสูงตั้งแต่ 2-4.5 นิ้ว รองเท้าลักษณะนี้จะค่อนข้างเล็กและแคบ จึงมีข้อเสียคือโดนรองเท้ากัดบ่อย บีบหน้าเท้า และอาจจะเจ็บเท้าได้ง่าย ข้อดีคือมีความทางการ สามารถใส่ได้หลากหลายโอกาส และทำให้ขาเรียวสวย ถ้าหากสาวๆ อยากที่จะใส่รองเท้าแบบนี้อาจจะต้องมีการซ้อมใส่ตั้งแต่ความสูงน้อยๆ เพื่อให้เท้าและสรีระมีการปรับตัว
2. รองเท้าส้นสูงรัดข้อ (Ankle Strap)
รองเท้าส้นสูงรัดข้อก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่คนฮิตใส่กันมากๆ ตั้งแต่ช่วง 3-4 ปีที่แล้ว เนื่องจากมีดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความเซ็กซี่ โดยจะมีสายหัวเข็มขัดรัดบนข้อเท้า บริเวณหน้าเท้าจะมีสายคาด ส่วนใหญ่รองเท้ารุ่นนี้มักจะมีให้เลือกทั้งแบบที่เสริมพื้นด้านหน้าหรือไม่เสริม ข้อดีคือใส่แล้วเท้าเรียวยาวสวย ขาดูยาวขึ้น เหมาะกับการออกงานอีเวนต์หรือปาร์ตี้สังสรรค์ ดีไซน์ไทม์เลส ข้อเสียคืออาจจะไม่ปกป้องนิ้วเท้าเพราะด้านหน้าของรองเท้าเปิด ถ้าหากเลือกแบบไม่เสริมพื้นด้านหน้าจะเมื่อยขามากกก และที่สำคัญรองเท้าแบบนี้ต้องใส่ 4 นิ้วถึงจะขายาวสวย สาวๆ คนไหนพร้อมสู้ก็จัดเลย!
3. รองเท้ามีสายคาด (Slingback)
สำหรับส้นสูงรูปแบบนี้เป็นแบบใหม่ที่กำลังเทรนด์ดี้กันเลยก็ว่าได้ ด้วยรูปแบบรองเท้าที่มีความลำลอง (Casual) ผสมกับความเป็นแฟชั่นหน่อยๆ จึงทำให้ถูกใจหลายๆ คน Slingback หรือรองเท้าส้นสูงที่มีสายคาด ด้านหัวรองเท้าจะเป็นคัทชูหัวแหลม ส่วนด้านหลังจะเป็นส้นเปิดและมีสายคาดรัดด้านหลังส้นเท้า ข้อดีคือเป็นรองเท้าที่ใส่ได้ชิลๆ จะใส่ไปทำงานก็ได้หรือใส่ไปสังสรรค์ก็ปัง ใครที่อยากได้ลุค Working woman หน่อยๆ ตัวนี้ก็คือตอบโจทย์ ที่สำคัญถ้าเลือกแบบส้นเตี้ยจะไม่ค่อยเจ็บเท้า ส่วนข้อเสียคืออาจจะเห็นปัญหาผิวบริเวณส้นเท้าได้ง่ายเพราะว่ามีการเปิดส้นเท้า
4. รองเท้าสวมเปิดส้น (Mules)
พี่อะเครุชอบชื่อของรองเท้ารุ่นนี้มาก Mules หรือรองเท้าสวนเปิดส้น สาวๆ หลายคนฮิตใส่กันมากๆ เนื่องจากเป็นรองเท้าที่น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ไฮแฟชั่น ใส่ง่ายเหมาะกับวันสบายๆ ไม่ว่าจะไปคาเฟ่หรือไปแฮงก์เอาท์กับเพื่อน ข้อดีคือจะคล้ายรองเท้าแตะแต่แค่มีส้นขึ้นมา ใครที่เบื่อรองเท้าส้นสูงแบบอื่น หรือเบื่อรองเท้าผ้าใบ Mules ก็ตอบโจทย์ เรื่องความเจ็บจะไม่ค่อยเจ็บเท้าเท่าไหร่ แต่ข้อเสียก็คือใส่กับโอกาสต่างๆ ได้ค่อนข้างน้อย และไม่สามารถใส่ไปงานที่เป็นทางการได้ ด้วยลักษณะที่ด้านหน้าเท้าและส้นเท้าเปิด อาจจะไม่เหมาะสำหรับบางโอกาสเช่น วันทำงาน หรือ ประชุม
5. รองเท้าส้นตึก (Platform Heels)
รองเท้าส้นตึกเป็นรองเท้าที่ฮิตมากในช่วงยุค 90s และกลับมาฮิตอีกครั้งในปีนี้เนื่องจากมีหลายแบรนด์นำเอามาใช้ในแฟชั่นโชว์ รองเท้ารุ่นนี้อาจจะไม่เหมาะกับสาวหวานสักเท่าไหร่ เนื่องด้วยรูปทรงที่ล้ำสมัยมาก ลักษณะคือจะมีพื้นเสริมด้านหน้าค่อนข้างสูง ส้นด้านหลังจะเป็นส้นตึกและสูง มีสายรัดบริเวณข้อเท้า ใส่แล้วเพิ่มความสูงกว่ารองเท้าส้นสูงทั่วไป เดินค่อนข้างยากเนื่องจากความสูงด้านหน้าและส้นจะสูงพอๆ กัน อาจไม่เหมาะกับหลายๆ โอกาส เหมาะกับวันที่แต่งตัวจัดจ้านเท่านั้น
ความสวยกับความเจ็บปวดมักมาคู่กันเสมอ เหมือนผู้หญิงกับรองเท้าส้นสูง การเลือกรองเท้าส้นสูงแต่ละแบบให้เหมาะกับกิจวัตรประจำวันของเรา เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ลดอาการเจ็บเท้าได้ดีมาก ถ้าหากเราเลือกแบบที่ผิดมาใช้เดินบ่อยๆ แบบนี้อาจจะต้องรักษาสุขภาพเท้าไปยาวๆ เลยน้าาา
Tripple B because it's unique. Enjoy watching sunset, dive into the world of art and let my soul sink into music.