เหตุการณ์เดจาวูน่าจะเคยเกิดขึ้นกับทุกคนมาก่อนแล้ว เพื่อที่จะให้คุณเข้าใจถึงเหตุผลว่าทำไมคำนี้ถึงได้มาเป็นคำใช้เรียกกับเหตุการณ์นี้ นั่นเป็นเพราะว่าคำนี้ในภาษาฝรั่งเศสนั้น แปลว่า เห็นแล้ว ซึ่งมีความหมายตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั่นก็คือเราได้เห็นมันมาก่อนแล้วนั่นเอง
การสนทนากัน การต่อสู้หรืออะไรก็ตามที่เราได้เห็นมันหรือมีประสบการณ์กับมันมาก่อนแล้วนั้น มันได้เหมือนเกิดขึ้นอีกครั้ง หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระ แต่ความจริงแล้วนั้นนักวิทยาศาสตร์ได้ให้คำอธิบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้โดยอธิบายเป็นข้อเท็จจริง และแสดงทฤษฎี 9 ข้อเพื่ออธิบายเกี่ยวกับเดจาวูเอาไว้ว่า
1.ยา
ในบางคนนั้นจะได้รับประสบการณ์เดจาวูหลังจากที่ได้รับยาบางชนิด โดยเฉพาะกรณีที่รักษาอาการเกี่่ยวกับไข้หวัดใหญ่ ผู้ป่วยนั้นจะมีการสูญเสียความสัมพันธ์ระหว่างอดีต-ปัจจุบันของเขา และเรื่มรู้สึกถึงเหตุการณ์เดจาวู ซึ่งหากคุณเคยทานยาแล้วเกิดเหตุการณ์เดจาวูนั้น อย่าตกใจไปเลย มันเป็นเรื่องปกติ
2.ความทรงจำที่พบบ่อยๆ
ถ้าเรามีกิจวัตรประจำวันที่ซ้ำๆ เดิมๆ นั้นเป็นไปได้มากเลยว่าสมองของเรานั้นอาจจะเริ่มจดจำและคิดว่าเราเคยได้ใช้ชีวิตจริงแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรถไฟฟ้า ดูหนังเรื่องเดิมๆ พูดคุยกับคนอื่นสองครั้ง จริงๆเราอาจจะคุยกับใครก็ได้ แต่มันคือจิตใต้สำนึกที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันเคยเกิดขึ้นมาแล้วนั่นเอง
3.อารมณ์สุดขีด
ประสบการณ์บางอย่างที่ทำร้ายเรา ให้เราเจ็บปวดฝังใจนั้น ทำให้สมองของเราจดจำและปรับเปลี่ยนสร้างความแตกต่าง บางครั้งเราปล่อยให้ช่องว่างที่ว่างเปล่าพร้อมกับข้อมูลที่ได้รับจากสภาพแวกล้อมของเรา สร้างความรู้สึกผิดๆที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสมองของเราจะพยายามที่จะทำให้ข้อมูลเหล่านั้นเป็นไปได้ที่สุด จนส่งผลออกมาให้มันมีการหลอกตัวเราเอง
4.การทำงานที่ผิดปกติของสมอง
นักวิทยาศาสตร์นั้นได้ค้นพบว่ามีพื้นที่ที่เรียกว่า “Dentate gyrus” ซึ่งมีอยู่ในฮิปโป และมีหน้าที่ในการจำแนกความแตกต่างว่าหน่วยความจำนั้นมีจริงหรือไม่ ซึ่งหากพื้นที่นี้นั้นมีความผิดปกติ อาจจะส่งผลให้เกิดความจำใหม่ๆขึ้นได้ และความล่าช้าของสมองนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดความกังวลจนเกิดเหตุการณ์เดจาวูได้
5.โรค
อีกทฤษฎีหนึ่งที่อธิบายถึงเหตุการณ์นี้นั้นเกี่ยวข้องกับอาการป่วยทางจิตภาพ โรคลมชัก หรือ ความวิตกกังวล เห็นได้ชัดว่าโรคต่างๆเหล่านี้นั้นพร้อมที่จะสร้างความทรงจำใหม่ๆอยู่เสมอ เนื่องจากการจัดเก็บของสมองของพวกเขาทำให้พวกเขานั้นมีสูญเสียความคิดของสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของเขา ทำให้เขาสับสน และสามารถก่อให้เกิดการสูญเสียการรับรู้เกี่ยวกับประสบการณ์จริง
6.คำอธิบายเกี่ยวกับจิตศาสตร์อาถรรพณ์
ตามคำอธิบายของจิตศาตร์อาถรรพณ์นั้นเรียกเหตุการณ์นี้ว่าเดจาวู เป็นอำนาจแห่งการทำนายอนาคตอันใกล้ได้ ในขณะที่เราพบเหตุการณ์นั่น เราอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญ แต่เมื่อเรากลายเป็นผู้รับรู้มันอีกครั้งแล้วนั้นทำให้เรารับรู้และพิจารณาเหตุผลที่การเกิดขึ้นนั่นเอง
7.ความฝัน
ในหลายๆ ครั้งที่เรามีความฝัน และฝันนั้นไปกระตุ้นให้เกิดผลกระทบประเภทนี้ จากฝันร้ายขนาดเล็กๆ ที่เพิ่มความจริงที่ว่าในที่สุดก็เกิดขึ้นจนกว่าความกลัวนั้นจะเตือนเราว่าบางสิ่งบางอย่างนั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าเราสร้างเหตุการณ์มากมายภายใต้จิตใต้สำนึกของเราอยู่ทุกวัน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้ไปกระตุ้นความทรงจำใหม่ๆที่สะท้อนให้เราเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในความเป็นจริง จนนำมาสู่เรื่องราวประสบการณ์เดจาวู
8.ข้อมูลที่เป็นไปได้
ในบางกรณีนั้นสมองของเราจะเสร็จสมบูรณ์ในสถานการณ์ต่างๆที่มีการตอบสนองที่เป็นไปได้มากที่สุด และความทรงจำใหม่ๆในใจเรา เมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นเราจะเชื่อว่าเป็นเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว ถ้าเราเปิดประตูละคิดว่ามันจะมีเรื่องประหลาดใจ เมื่อเราเปิดมันออกแล้วมันเกิดเรื่องประหลาดใจขึ้นจริงเราก็จะรู้สึกเหมือนว่าเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว แต่ถ้าหากไม่ ก็จะผ่านไปสมองและจิตใจก็จะไม่ประมวลผลออกมาให้เป็นไป เดจาวูเกิดจากสภาพแวดล้อมของเราในชีวิตประจำวันนั่นเอง
9.จักรวาลแบบคู่ขนาน และการเดินทางข้ามเวลา
มีทฤษฎีที่เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่เดินทางในเวลาได้ ในการทำเช่นนี้นั้นจิตใจของเราจะไม่ได้เก็บความทรงจำไว้ เนื่องจากอดีตสิ่งเหล่านั้นยังไม่ได้เกิดขึ้น ทำให้เรื่องราวเหล่านั้นเรายังไม่ใช่เจ้าของเรื่องราว แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วนั้นของเส่ียขนาดเล็กสะสมโดยไม่ต้องรักษาตรรกะมากกว่าภาพขนาดเล็กที่เราสะสมในสมองนั้น ทำให้เราเห็นภาพเหล่านั้น ร่างกายของเราไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องราวการเดินทางนั้นแต่เก็บจดจำไว้เพียงเรื่องราวเล็กๆน้อยที่เราอยากรู้อยากเห็นนั่นเอง
จาก 9 ทฤษฎีนี้ คิดว่ายังไงกันบ้างเอ่ย เชื่อว่าหลายๆคนก็คงต้องเคยพบกับประสบการณ์เดจาวู ในเหตุการณ์ของคุณ เป็นไปตามทฤษฎีไหนที่สุดในความคิดของคุณกันบ้างเอ่ย
ที่มา:Dazzling
