Now Reading
ลดน้ำหนักฉบับมือใหม่แบบ Intermittent Fasting เห็นผลรวดเร็ว

ลดน้ำหนักฉบับมือใหม่แบบ Intermittent Fasting เห็นผลรวดเร็ว

สาว ๆ เคยได้ยินคำว่า Intermittent Fasting กันหรือเปล่าเอ่ย? สำหรับคนที่ยังงง ๆ ว่ามันคืออะไรนะ? ที่จริงแล้วมันก็คือ การอดอาหาร สลับกับการทานอาหาร โดยว่ากันว่าการทานอาหารแบบนี้ ไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกายแต่อย่างใด แถมดีกว่าการทานอาหารให้ครบ 3 มื้อเสียอีก เพราะมันจะทำให้พวกเรากินน้อยลง และมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น

 

IF_1

ที่มา femniqe

เริ่มทาน Intermittent Fasting อย่างไรดี?

การทาน Intermittent Fasting จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท

การทานแบบ 16/8 (Lean Gains)

การทาน Intermittent Fasting จะใช้วิธีการอดอาหารเป็นเวลา 14-16 ชั่วโมง โดยให้นับมื้ออาหารล่าสุดที่ทาน แล้วนับสำหรับการทานอาหารมื้อต่อไป ยกตัวอย่างเช่น ทานอาหารมื้อล่าสุด 6 โมงเย็น ก็ต้องทานอาหารมื้อต่อไปในเวลา 10 โมงเช้า

ทานอาหารแบบ 5:2 

ทานอาหาร 5 วันต่อสัปดาห์ จำกัดแคลอรี่ที่ 500-600  แคลอรี่ต่อวัน ทาน 2 มื้อ

อดอาหาร 20 ชั่วโมง

กินผักผลไม้เพียงเล็กน้อยในตอนกลางวัน และรับประทานอาหารมื้อใหญ่ในตอนกลางคืน

โดยในระหว่างที่ทำการอดอาหารคุณสามารถดื่มน้ำเปล่า กาแฟดำ หรือลูกอมอะไรก็ได้ที่ไม่เกิน 40 แคลอรี่

 

ข้อดีจากการทานอาหารแบบ Intermittent Fasting

intermittent-fasting

1. เซลล์และฮอร์โมนถูกเปลี่ยนแปลง

การศึกษาหนึ่งพบว่า การอดอาหารจะช่วยเพิ่มโกรทฮอร์โมน (HGH) ในผู้หญิง 1300% และในผู้ชายมากถึง 2000% โกรทฮอร์โมนจะช่วยควบคุมการเจริญเติบโตขององค์ประกอบของร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้อ และกระดูก รวมทั้งน้ำตาล และ เมตาบอลิซึ่ม ทำให้ร่างกายลดน้ำหนักและสร้างกล้ามเนื้อได้ดี การลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting (IF) จะช่วยปรับปรุงการตอบสนองที่ไวและลดความต้านทานต่ออินซูลิน นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดเกลือและน้ำที่มากเกินไป รวมถึงความเจ็บป่วย ระดับอินซูลินที่ต่ำลงช่วยให้ไขมันสะสมถูกกำจัดได้ง่ายขึ้น เมื่อคุณอดอาหารร่างกายก็จะทำการซ่อมแซมส่วนประกอบของเซลล์ รวมถึงขบวนการกินตัวเองของเซลล์ เซลล์จะย่อยและขจัดโปรตีนที่เก่า และโปรตีนที่ทำงานได้น้อยลง และสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ ซึ่งนี่เป็นการเริ่มต้นของกระบวนการฟื้นฟูของเซลล์ขึ้นมาให่ ให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น

2. ช่วยลดน้ำหนัก

จากผลการศึกษาพบว่า IF มีความเกี่ยวโยงกับการลดน้ำหนัก ในการศึกษาหนึ่งได้แสดงให้เห็นถึงอัตราการเผาผลาญอาหารขั้นพื้นฐาน และการเผาผลาญไขมันที่เพิ่มขึ้นหลังจากอดอาหาร เพราะเมื่อร่างกายเข้าสู่ช่วงการอดอาหาร เซลล์จะเริ่มใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงานหลักแทนน้ำตาลกลูโคส  โดยที่ร่างกายสามารถได้ประโยชน์จากไขมันสำรองที่เป็นแหล่งพลังงาน แทนการได้รับเชื้อเพลิงจากอาหาร สิ่งนี้เป็นผลมาจากการปล่อยนอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine) หรือที่เราทราบว่า”ฮอร์โมนเผาผลาญไขมัน” ที่ช่วยควบคุมการเผาผลาญไขมัน และเมื่อมันถูกปล่อยออกมาจากสมองก็จะโจมตีเข้าไปที่เซลล์ไขมันโดยตรง

3. ส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

มีผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า การออกกำลังกายแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด อีกทั้งยังปรับปรุงการไหลเวียนของไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอล และลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยในผลการศึกษาพบว่าอาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลรวมลดลงถึง 20% นอกจากนี้ยังมีการลดไตรกลีเซอไรด์ลง 32% เมื่อเทียบกับระดับที่วัดได้ก่อนลดน้ำหนักแบบ IF

IF_2

4. สามารถลดการเชื้อในร่างกาย

การติดเชื้อคือการตอบสนองของร่างกายต่อความเครียด อาจเป็นจากไลฟ์สไตล์ อาหาร หรือปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมก็ได้ ซึ่งในบางครั้ง การเชื้อเป็นสิ่งที่ดี อย่างเช่น ถ้าคุณรู้สึกหนาวจัดร่างกายของคุณก็จะเป็นไข้ มีหน้าที่ช่วยฆ่าเชื้อไวรัสในร่างกายของคุณได้ การติดเชื้ออย่างต่อเนื่องมีผลมากมายต่อสุขภาพของคุณ เช่น กรดไหลย้อน โรคมะเร็ง โรคข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน โดยการผลิตเกรลิน (ghrelin) ที่มีหน้าที่อดอาหารสามารถยับยั้งการติดเชื้อในร่างกายได้ และสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันอีกด้วย

 

5. กระตุ้นระบบการเผาผลาญ

แม้ว่าอดอาหารในระยะยาวอาจมีผลเสียต่อระบบการเผาผลาญอาหารของคุณ แต่การอดอาหารระยะสั้น อย่าง IF จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญอาหารของคุณ เพราะในความเป็นจริงการเผาผลาญอาหารของคุณจะเพิ่มขึ้นถึง 14% การเผาผลาญอาหารจะช่วยบำรุงรักษาเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ ทั้ง ๆ ที่น้ำหนัก

6. กระตุ้นการทำงานของสมอง

มีการค้นพบว่า IF สามารถช่วยกระตุ้นสมองได้ อย่างเช่น ช่วยในการฟื้นตัวหลังการบาดเจ็บที่สมอง หรือโรคหลอดเลือดสมองส่งเสริมการเติบโตของเซลล์ประสาท และการเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยความจำ

ผลการทำ Intermittent Fasting

อย่าลืมว่าการลดน้ำหนักแบบนี้ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ลดน้ำหนักแบบนี้แล้วได้รับผลลัพธ์ที่ดีอย่างสาว Kylie เธอบอกว่าลดน้ำหนักได้ 30-40 ปอนตั้งแต่เริ่มทำ IF

IF

ใครบ้างที่ไม่ควรลดน้ำหนักวิธีนี้?

  • ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร
  • เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ผู้ที่มีน้ำหนักน้อย / ขาดสารอาหาร

นอกจากการทำ IF แล้ว ก็อย่าลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพและรูปร่างที่ดีของตัวเราเองค่ะ

View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top