Now Reading
ล้วงลึก!! อาการปวดหัวแบบต่างๆ ..พร้อมวิธีรักษาแบบธรรมชาติ !!

ล้วงลึก!! อาการปวดหัวแบบต่างๆ ..พร้อมวิธีรักษาแบบธรรมชาติ !!

เราทุกคนต่างเคยมีอาการปวดหัวกันมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะปวดน้อยหรือปวดมาก อาการปวดหัวที่แตกต่างกันมีมากกว่าร้อยชนิด และในแต่ละปีมีคนอเมริกันจำนวนมากที่ได้รับการวินิจฉัยผิดพลาด เมื่อพวกเขาขอความช่วยเหลือจากแพทย์หลังจากมีอาการปวดหัว นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงไม่รู้แน่ชัดว่าอะไรที่เป็น สาเหตุของการปวดหัว ต่างๆ นี้ ดังนั้นการค้นหา วิธีรักษาอาการปวดหัว บางชนิดอาจเป็นเรื่องยุ่งยากได้

465468-types-of-headaches

source: zeenews.india.com

ขณะที่อาการปวดหัวอาจจะเกิดขึ้นจากสาเหตุทั่วๆ ไปอย่างเช่น การขาดน้ำหรือความเหนื่อยล้า แต่มันก็อาจเป็นสัญญาณของอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงมากขึ้นก็ได้

ก่อนที่จะทานยาเวลาที่คุณรู้สึกปวดหัวหรือปวดไมเกรน ควรใช้เวลาสักนิดเพื่อสังเกตอาการ และเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้มีบางสิ่งที่เป็นอันตรายกำลังเกิดขึ้น ในที่นี้ได้มีการจำแนกอาการปวดหัวออกเป็น 4 ชนิด มีตั้งแต่อาการปวดที่พบได้มากที่สุด และอาการปวดที่สามารถบอกเกี่ยวกับบางสิ่งในร่างกายของคุณ การรู้จักอาการปวดหัวแต่ละชนิดจะทำให้คุณรักษามันได้อย่างถูกต้องเวลาที่ต้องเผชิญกับมัน ในขณะที่ยาแก้ปวดอาจทำงานเพื่อบรรเทาอาการปวดชั่วคราว แต่ข้อมูลที่เรากำลังจะพูดถึงนี้ได้รวบรวมตัวเลือกทางธรรมชาติเพื่อช่วยทำให้อาการปวดหัวของคุณลดลง

1. ปวดศีรษะจากความเครียด (Tension headache)

GettyImages-557475959web-56c61fc73df78cfb3783f030

source: verywell

ปวดศีรษะจากความเครียดเป็นอาการปวดหัวที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะรู้สึกถึงการปวดที่เกิดขึ้นตลอดเวลาหรือตื้อๆบริเวณรอบศีรษะ โดยเฉพาะที่ขมับหรือด้านหลังศีรษะและคอ มันอาจรู้สึกเหมือนกับความเจ็บปวดแผ่รอบด้านบนและด้านล่างดวงตาของคุณ ปวดศีรษะจากความเครียดนั้นไม่รุนแรงเท่าไมเกรน ดังนั้นมันจะไม่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการปวดหัวชนิดนี้อาจจะมีสาเหตุมาจากการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคอและหนังศีรษะ ซึ่งสามารถตอบสนองต่อความเครียดได้

วิธีการรักษา: ชาขิงสามารถช่วยลดอาการอักเสบได้ และการเพิ่มน้ำมันเปปเปอร์มินต์ลงบนเส้นผมของคุณสามารถสร้างความรู้สึกเย็นเพื่อทำให้กล้ามเนื้อศีรษะและคอของคุณผ่อนคลาย เมื่อใช้การรักษาตามธรรมชาติทั้งสองอย่างร่วมกันจะช่วยขจัดความเจ็บปวดของอาการปวดศีรษะจากความเครียดได้

2. ไมเกรน (Migraine)

confused-studentcollegedegrees360-400x267

source: schoolmoney.org

ไมเกรนส่งผลกระทบต่อผู้คนในสหรัฐฯทั้งชาย, หญิง, และเด็กเป็นจำนวนมากถึง 38 ล้านคน ส่วนใหญ่แล้วมีอายุระหว่าง 25-55 ปี แต่ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ คุณอาจพบกับอาการปวดไมเกรนได้เหมือนกัน ไมเกรนเป็นมากกว่าแค่อาการปวดหัวที่เลวร้าย มันได้รวบรวมอาการเกี่ยวระบบประสาทที่ทำให้ทรุดโทรมอย่างมาก โดยมีอาการปวดซ้ำๆและอาการปวดตุบๆอย่างรุนแรงที่ด้านหนึ่งของศีรษะ (ในระยะแรกของอาการปวดจะมีอาการปวดทั้งสองข้าง) พร้อมกับอาการอื่นๆร่วมด้วยอย่างการมองเห็นผิดปกติ, อาการคลื่นไส้, อาเจียน, เวียนศีรษะ, ไวต่อเสียง, แสง, การสัมผัสและกลิ่น, รู้สึกซ่าหรืออาการชาบนใบหน้า การปวดหัวชนิดนี้มีแนวโน้มที่จะแผ่ออกไปจากด้านบนของใบหน้าลงมา

วิธีการรักษา: วิตามิน B2 หรือไรโบฟลาวิน (Riboflavin) ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ป่วยไมเกรน นอกจากนี้ยังมีแมกนีเซียมและกรดไขมันโอเมก้า 3 ด้วย คุณควรได้รับสารอาหารเหล่านี้อย่างเพียงพอในแต่ละมื้อ เพื่อช่วยป้องกันอาการปวดไมเกรน นอกจากนี้การศึกษาในปี2011ได้พบว่าการออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิกมีประสิทธิภาพในการป้องกันไมเกรนพอๆกับยาที่ใช้ป้องกันไมเกรนอย่าง topiramate (เป็นยาในกลุ่มป้องกัน ใช้รักษาอาการของโรคลมชักและป้องกันการเกิดไมเกรน) ซึ่งสรุปได้ว่าการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันอาจจะใช้แทนการรักษาด้วยยาได้

3. ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ (Cluster Headache)

461492093

source: gettyimages.in

ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์มักจะเกิดขึ้นเหนือตาข้างหนึ่ง และพวกมันส่งผลกระทบต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิง อาการปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์เป็นการปวดแบบซ้ำๆ และมันอาจเกิดเป็นชุดหรือเป็นวงจร ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์สามารถเกิดขึ้นได้ทันทีและทำให้เกิดความรุนแรงบริเวณด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ เมื่อเกิดอาการปวดแบบคลัสเตอร์ขึ้น คุณอาจมีอาการน้ำตาไหล และคัดจมูกหรือน้ำมูกไหลร่วมด้วย แม้ยังไม่มีการทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่การปวดหัวประเภทนี้จะเกิดขึ้นเวลาทางเดินของเส้นประสาทที่อยู่ในสมองถูกกระตุ้น

วิธีการรักษา: ส่วนประกอบสำคัญในครีมที่มีสารสกัดจำพวกพริก (capsaicin cream) อย่าง Cayenne Pepper โดยนำมาใช้เพียงเล็กน้อยที่โพรงจมูกของคุณ เมื่อคุณมีอาการปวด มันจะช่วยป้องกันอาการปวดเส้นประสาท

4. ปวดหัวจากไซนัส (Sinus Headache)

o-HEADACHE-AND-WOMAN-facebook

source: huffingtonpost.ca

ปวดหัวจากไซนัสเกิดขึ้นเมื่อไซนัสมีการอักเสบและนำไปสู่ความเจ็บปวด ปวดหัวจากไซนัสที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ มักจะมาพร้อมกับการมีไข้ รวมถึงปวดหน่วงๆรอบดวงตา, แก้ม, และหน้าผาก

วิธีการรักษา: การดื่มน้ำมากๆเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้ร่างกายของคุณ น้ำอุ่นสามารถช่วยเปิดโพรงจมูกของคุณและลดการอักเสบได้ และยังมีวิตามินC ที่อยู่ในสารต้านอนุมูลอิสระ และสามารถช่วยร่างกายให้ต่อสู้กับการติดเชื้อ ดังนั้นการทานส้มเล็กน้อยหรืออาหารอื่นๆที่เต็มไปด้วยวิตามินC หรือจิบชามะนาว นอกจากนี้คุณอาจจะอยากลองประคบร้อนและเย็นดูก็ได้ รวมไปถึงซุปอุ่นๆ, และขิงสดที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และคุณสมบัติลดอาการปวด

headache

source: ippeun-nuna.livejournal.com ที่มา: davidwolfe 

เราจะเห็นได้ว่าการปวดหัวต่างๆนั้นมีอาการที่แตกต่างกันและยังบ่งบอกถึงความผิดปกติเกี่ยวกับสุขภาพในร่างกายของคุณ เมื่อคุณต้องเจอกับอาการปวดหัว อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาและละเลยมัน ลองสังเกตอาการปวดของคุณและนำวิธีการรักษาและป้องกันทางธรรมชาติเหล่านี้ไปปรับใช้ดู เพราะบางทีการทานยาแก้ปวดมากเกินไปและติดต่อกันนานๆ อาจส่งผลต่ออวัยวะอื่นๆในร่างกายของคุณ หรือบางทีก็อาจมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ หากมีอาการปวดหัวเรื้อรังและรุนแรงขึ้นควรรีบไปพบแพทย์เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณค่ะ

 

View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top