Now Reading
5 ทางออกแก้นิสัยบ้างาน ปรับสมดุลให้กับชีวิต

5 ทางออกแก้นิสัยบ้างาน ปรับสมดุลให้กับชีวิต

ตั้งใจทำงานเป็นเรื่องที่ดี แต่การหักโหมจนหนักจนเกิดอาการเตือนเป็นสัญญาณเหนื่อยล้า หรือค่อยๆ สูญเสียแรงจูงใจในการทำงานและการใช้ชีวิต หงุดหงิดทุกครั้งที่งานไม่ได้ดั่งใจ นี่อาจเป็นสัญญาณที่กำลังเตือนว่าคุณกำลังบ้างานจนเสียสมดุลชีวิตจนเกินไป  วันนี้เราจึงพาทุกคนมาหาทางออกรับมือกับปัญหาติดงานจนสุขภาพจิตเสีย ใครที่รู้ตัวว่าบ้างานจนเกินไปตามเรามาทางนี้เลยค่ะ

บางครั้งคำว่า “คนบ้างาน” ก็เป็นคำที่ดูเหมือนจะชื่นชมว่าบุคคลเหล่านี้คือผู้ที่จริงจังรับผิดชอบต่อการทำงานที่ดี แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ความตั้งใจอย่างสุดโต่งนี้ อาจเป็นตัวการแหล่งสะสมความเครียดในใจที่ส่งผลร้ายกับตัวเองและคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว ลามไปถึงปัญหาไม่มีเวลาให้ครอบครัว จริงจังกับงานจนเครียดเสียสุขภาพ  หนักสุดบางคนเผยอาการเครียดทั้งปวดหัวปวดท้อง ไม่มีเวลาผ่อนคลายเหมือนคนอื่น ปล่อยไว้อาจเกิดผลร้ายต่อสุขภาพกายและใจในระยะยาว วันนี้เราจึงชวนทุกคนมาเช็คตัวเองพร้อมรับมือหาทางออกแก้นิสัยบ้างานจนเกินไป เพื่อปรับสมดุลใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆ วันกัน

5 วิธีแก้นิสัยบ้างาน ขยันแบบพอดีไม่มีเครียดเกิน

1 .ใส่ใจครอบครัวคนรอบข้างให้มากขึ้น

ลองกลับมานั่งพิจารณาเช็กดูตัวเองว่าทุกวันนี้เรามีเวลาว่างทานข้าวใช้ชีวิตกับครอบครัวบ้างหรือไม่ ถ้าหากทำแต่งานจนลืมหน้าไม่มีเวลาเจอใคร นั่นแสดงว่าเรากำลังติดงานจนลืมใส่ใจคนสำคัญรอบข้าง ปล่อยไว้อาจเกิดปัญหาช่องว่างความสัมพันธ์ที่เหินห่างกับคนในครอบครัว ลองนึกถึงความสำคัญของบุคคลเหล่านี้แล้วจัดสรรเวลาใส่ใจทำกิจกรรมร่วมกันให้มากขึ้น การแบ่งเวลาให้ครอบครัวก็สามารถแบ่งเบาภาระแก้นิสัยบ้างานที่มากเกินไปให้อยู่ในระดับที่พอดีได้

2.ปล่อยวางจิตใจ

อย่าตั้งเป้าหมายและสร้างความเครียดให้กับตัวเองว่างานทุกอย่างที่ทำจะต้องเป๊ะไม่มีข้อผิดพลาด และรับผิดชอบงานทุกอย่างเองทั้งหมดเพราะนั่นจะทำให้เราหลุดจากวังวนคนบ้างานได้ยากขึ้น ลองปล่อยวางแบ่งงานให้คนอื่นทำ และยอมรับในข้อผิดพลาดบ้าง เรียนรู้ที่จะอยู่กับความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองและเพื่อนร่วมงาน ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ ปล่อยวางจิตใจไม่ตึงจนเกินไปก็จะช่วยให้เราลดความเครียดจากปัญหาการบ้างานที่มากเกินให้ผ่อนคลายลงได้

3.แบ่งเวลาให้เป็น

การจัดการแบ่งเวลาในการใช้ชีวิตแต่ละวันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้เราแก้นิสัยบ้างานให้ดีขึ้นได้ เราจึงควรชัดเจนกับเวลาใช้ชีวิตในแต่ละช่วงของวันแบ่งเวลาการทำงานและการพักผ่อนออกจากกัน เมื่อทำงานก็ทำอย่างเต็มที่ พอถึงเวลาเลิกงานต้องพักผ่อนก็ควรจะหากิจกรรมสร้างความผ่อนคลาย ไม่นำงานกลับมาทำที่บ้าน เลิกคิดหรือพูดถึงเรื่องงานเมื่ออยู่ที่บ้านหรือช่วงหลังเวลาทำงาน ลองใช้ชีวิตหลังทำงานชาร์จแบตให้เต็มที่เราก็สามารถรักษาสมดุลของชีวิตทำงานพร้อมใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปพร้อมๆ กันได้

See Also

4.ให้รางวัลตัวเองเป็นมื้อเย็นแสนอร่อย

ลองปรับชีวิตเรียนรู้ความสุขเล็กๆหลังจากเลิกงานให้มากขึ้น ระหว่างพักในช่วงทำงานลองคิดหาเมนูอาหารเย็นแสนอร่อยเป็นรางวัลในการทำงานให้กับตัวเองกันดูอาจจะเป็นทื้อพิเศษดีดีอาทิตย์ละครั้ง วิธีนี้จะช่วยลดแรงตึงเครียดแก้ปัญหาบ้างานให้ดีขึ้น ทานอาหารมื้ออร่อยเสร็จก็เข้านอนปรับความคิดให้ผ่อนคลายยิ้มให้ตัวเองตอนตื่นนอนในทุกๆเช้า ปรับอารมณ์ให้แจ่มใสงานหนักแค่ไหนก็พร้อมสู้ไม่มีตึงเกิน

5.พักผ่อนในวันหยุด

อย่าให้ตารางชีวิตทุกวันเต็มไปด้วยงาน ไม่ยอมพักหยุดหายใจ เพราะสิ่งนี้จะเป็นการก่อความเครียดสะสมไปในตัวเรื่อยๆ อย่างไม่รู้ตัว เมื่อถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ควรพักคลายความเครียด หาเวลาซ่อมตัวเองเปิดโลกบ้างเพื่อค้นหามองเห็นมุมมองใหม่ๆ พาครอบครัวไปทานข้าว อยู่กับครอบครัว เพื่อน คนที่รัก ก็จะช่วยลดนิสัยบ้างานให้น้อยลง  ชีวิตก็สมดุลไม่ตึงเครียดมากเกิน

ใครที่กำลังบ้างานจนเกินไป อย่าปล่อยให้ปัญหานี้เรื้อรังจนยากจะแก้ รีบหาทางออกด้วยวิธีปรับชีวิตที่เรานำมาฝากกันดู จำไว้ว่างานไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิต สิ่งสำคัญอย่าลืมรักและดูแลตัวเองกันอยู่เสมอนะคะ

ที่มา:tagsis
ที่มาภาพ:uzzlangdailly,livingly,weheartit.1,weheartit..2
,park-shin-hye,oppay.me,i.pinimg
View Comments (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published.

CAPTCHA


Scroll To Top