การใช้ชีวิตประจำวันบางอย่างส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตลามไปถึงปัญหาความอ้วนที่มองหาทางออกไม่ได้สักที แต่สาวๆ รู้ไหมว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตโดยการปรับกิจกรรมตั้งแต่เช้าจนถึงเข้านอน สามารถเรียกสุขภาพดีแข็งแรงและปรับระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึงการเผาผลาญไขมันต่างๆ ได้อยู่หมัด ทำให้การลดความอ้วนเป็นเรื่องง่ายขึ้น เพียงปรับนิสัยการใช้ชีวิตในแต่ละช่วงเวลาดังต่อไปนี้ สุขภาพดีแข็งแรงก็มีได้ไม่ยากค่ะ
1.เวลา 6.00 น. – 8.00 น. : เดินเล่นและทานอาหารเช้า
ช่วงเวลาแรกหลังตื่นนอนควรฝึกดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วเพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย ช่วยเพิ่มระบบการเผาผลาญและลดความเสี่ยงของโรคบางชนิด ปริมาณโปรตีนสำหรับมื้อเช้าก็สำคัญเช่นกันสำหรับการลดไขมัน ดังนั้นควรทานอาหารที่มีโปรตีนอย่างน้อย 20-35 กรัมในช่วงเวลานี้ โดยเลือกทานไข่หรือผลิตภัณฑ์นม เนื้อไม่ติดมัน เพื่อช่วยปรับปรุงการเผาผลาญซ่อมแซมกล้ามเนื้อให้ความรู้สึกอิ่มท้องอยู่ตลอดวัน นอกจากนี้ตั้งแต่เวลาประมาณ 6 โมงเช้าเป็นช่วงเวลาที่ดีในการฝึกฝนออกกำลังกายเบาๆ ลองฝึกตื่นเช้า เดินเล่น หรือทำโยคะเป็นเวลาประมาณ 30 นาทีจะช่วยในการเผาผลาญไขมันทำให้ร่างกายกายตื่นตัวรู้สึกเฟรชพร้อมรับวันใหม่ได้อย่างสดชื่น
2.เวลา 10:00 – 11:00 น. : ดื่มชาร้อนเพื่อเพิ่มความรู้สึกอิ่มท้อง
เวลา 10.00 น. เป็นเวลาที่ร่างกายปล่อยสัญญาณ เช่น ความกระหายและความหิวโหย ดังนั้นหากคุณสาวรู้สึกกระหายน้ำในช่วงเวลานี้แนะนำให้เลือกดื่มชาร้อนเพื่อช่วยดับกระหาย ซึ่งจะช่วยให้อิ่มท้อง ไม่ทานมื้อเที่ยงจนหนักเกิน ขณะเดียวกันก็ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารมันต่างๆ ที่มีผลต่อน้ำหนักที่อาจเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
3.เวลา 12.00 – 13.00 น. : ช่วงเวลาการทานข้าวเที่ยง
การทานข้าวเที่ยงให้ตรงเวลาในช่วงเที่ยงไม่เกินบ่ายโมงมีผลต่อการควบคุมระบบเผาผลาญให้อยู่ในภาวะสมดุล ซึ่งทำให้การลดน้ำหนักเห็นผลได้เร็วขึ้น ก่อนอาหารกลางวันประมาณครึ่งชั่วโมง ควรดื่มน้ำ 2 แก้วเพื่อช่วยเพิ่มปรับปรุงการเผาผลาญและเพิ่มความรู้สึกอิ่มทำให้เราทานอาหารได้น้อยลง เลือกทานอาหารกลางวันที่มีคุณค่าทางโภชนาสูง เน้นผักและโปรตีนจะช่วยลดน้ำหนักได้ดี เน้นคาร์โบไฮเดรตจำพวก ข้าวกล้อง เมล็ด Quinoa มันฝรั่งหวาน ซีเรียล โปรตีนควรเป็นเนื้อไม่ติดมัน เช่น เนื้อวัว ไก่ ปลา ไข่ หลังทานอาหารกลางวันเสร็จควรออกกำลังกายด้วยการเดินย่อยสักพักก็จะช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบเผาผลาญให้ดีขึ้น
4.เวลา 13.00 – 14.00 น. : งีบหลับสักพัก
หลังจากทานข้าวเที่ยงควรใช้เวลาในการพักผ่อนสายตาประมาณ 20-30 นาทีเพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูกระตุ้นพลังงานเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานช่วงบ่าย ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าการงีบตอนบ่ายประมาณ 20 – 30 นาทีช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการนอนได้ดีกว่าการนอนในเวลากลางคืนถึง 4 เท่า อย่างไรก็ตามการงีบหลับนานเกินไปนั้นก็ไม่ดีต่อสุขภาพ (นอนมากกว่า 1 ชั่วโมง) เพราะอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าปวดศีรษะและยังส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับตอนกลางคืนอีกด้วย
5.เวลา 14.00 – 16.00 น. : จิบชายามบ่ายหนึ่งถ้วย
โดยปกติแล้วช่วงเวลานี้จะเป็นเวลาที่เราเริ่มรู้สึกหิวและมีแนวโน้มที่จะมองหาของว่างที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การจิบน้ำชาอุ่นๆ สักแก้วสามารถแก้ปัญหาอาการหิวให้อยู่หมัดและช่วยปรับปรุงระบบเผาผลาญให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ แถมยังทำให้อิ่มท้องยาวๆ ไปจนถึงมื้อเย็น
6.เวลา 18.00 – 20.00 น. : เวลาอาหารเย็นและออกกำลังกาย
การลดน้ำหนักที่ดีไม่ใช่การอดอาหารเย็น เปลี่ยนจากมื้อเย็นที่หนักเป็นการกินผักสีเขียวให้เพิ่มขึ้นจะดีกว่า เพราะผักสีเขียวจะช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญอาหารจึงช่วยให้ร่างกายไม่รู้สึกเพลียเมื่อยล้า ไม่หนักท้อง นอกจากนี้หลังมื้ออาหารประมาณ 30 นาทีหากใช้เวลาออกกำลังกายจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มได้ถึง 22% และช่วยปรับปรุงระบบเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7.เวลา 21.00 – 22.00น. : โปรดออกห่างจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาร่างกายต้องการการผ่อนคลาย ดังนั้นควรฝึกนิสัยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การใช้โทรศัพท์ ดูทีวี หรือ เล่นคอมพิวเตอร์ เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์อาจส่งผลขัดขวางต่อการนอนที่ดีมีประสิทธิภาพ ในช่วงเวลานี้แนะนำให้หาหนังสือมาอ่านหรือฟังเพลงก่อนเข้านอนจะช่วยให้ร่างกายหลับง่ายขึ้นและยังช่วยปรับปรุงระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8.เวลา 22.00 – 23.00 น. : เตรียมพร้อมเข้านอน
การนอนดึกส่งผลต่อความอ้วนและการลดน้ำหนักอย่างเห็นได้ชัด พยายามฝึกตัวเองให้เข้านอนให้ได้ในช่วงเวลา 4 – 5 ทุ่มเป็นประจำเพราะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการเผาผลาญไขมัน ทำให้ผิวดูสวยไม่โทรม ที่สำคัญการเข้านอนเร็วยังช่วยให้หลีกเลี่ยงการมีน้ำหนักเกิน โรคอ้วนต่างๆ ได้อย่างดีอีกด้วย
ลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่เห็นผลสักทีนั่นอาจเป็นเพราะระบบเผาผลาญของร่างกายพังอยู่ก็ได้ ลองมาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตทำกิจกรรมต่างๆ ตามช่วงเวลาที่เรานำมาฝากกันดู อาจทำให้ผลลัพธ์ของการลดน้ำหนักดีขึ้นจนสาวๆ ต้องอึ้งกันเลยทีเดียว
ที่มา:afamily
ที่มาภาพ:instiz,chuu,alibaba,i.pinimg.1,i.pinimg.2,i.pinimg.3,i.
pinimg.4,i.pinimg.5,hansara.only,skillofking,allkpop
Hi!! I'm Coojii อยากผ่อนคลายติดตามเรื่องราวไลฟสไตล์ชิคคูล คลิก Akerufeed โหลดความสุขสิ่งดีดี พร้อมรอส่งต่อกับทุกคนอยู่ที่นี่นะจ๊ะคนดี